Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2558 Front Line Defenders ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณี ที่บารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาผิด ม.116 หลังร่วมสนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ โดย Front Line Defenders เรียกร้องให้มีการยุติการดำเนินคดีต่อ บารมี เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการส่งเสริมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เพื่อการทำงานคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างชอบธรรม และอย่างสงบ โดยแถลงการณ์มีรายละเอียดดังนี้

8 กรกฎาคม 2558

แถลงการณ์ Front Line Defenders

ประเทศไทย: บารมี ชัยรัตน์ ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนถูกดำเนินคดี

นายบารมี ชัยรัตน์ ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนถูกตั้งข้อหาก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เนื่องจากเขาสนับสนุน 14 นักศึกษาที่เป็นนักเคลื่อนไหว ซึ่งที่ผ่านมาถูกควบคุมตัวจากการประท้วงอย่างสงบเพื่อต่อต้านระบอบทหาร และต่อต้านการบังคับไล่รื้อชุมชนในชนบทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย

บารมี ชัยรัตน์เป็นผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน และเพิ่งได้รับเลือกตั้งอีกครั้งให้เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เขายังเป็นผู้ประสานงานสมัชชาคนจน (สคจ.) สคจ.เป็นขบวนการเคลื่อนไหวระดับรากหญ้าที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2538 ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากหน่วยงานระดับชุมชนและเอ็นจีโอในพื้นที่ และทำหน้าที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ พัฒนาและอุตสาหกรรมในไทย

ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2558 เจ้าพนักงานตำรวจได้ออกหมายเรียกตัวเพื่อมาสอบสวน ซึ่งจะมีการเข้ารายงานตัวในเวลา 9.00 น.ของวันที่ 10 กรกฎาคมที่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ตามการแจ้งความของพันโทพงศฤทธิ์ ภวังคะนันท์ บารมีอาจได้รับโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีจากการละเมิดมาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญาของไทย

ข้อกล่าวหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการที่ บารมีให้ความสนับสนุนต่อ 14 นักศึกษาที่เป็นนักเคลื่อนไหวซึ่งได้ถูกควบคุมตัวตามคำสั่งของศาลทหาร กรุงเทพ และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ก่อนที่พวกเขาจะถูกจับกุมในวันที่ 26 มิถุนายน 2558 บารมีได้ไปเยี่ยมนักศึกษากลุ่มนี้ และให้ที่พักพิงกับพวกเขาเป็นเวลาสองคืน

ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 14 นักศึกษาที่เป็นนักเคลื่อนไหวรวมทั้งผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนเจ็ดคนจาก กลุ่มดาวดิน ได้รับการปล่อยตัวหลังถูกควบคุมตัวเป็นเวลาสองสัปดาห์ที่เรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯ ในวันที่ 7 กรกฎาคม ศาลทหารกรุงเทพสั่งให้ปล่อยตัวพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข และปฏิเสธคำขอฝากขังอีก 12 วันของตำรวจ อย่างไรก็ดี ศาลไม่ได้ยกข้อกล่าวหาต่อนักศึกษากลุ่มดังกล่าวที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดคำ สั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 7/2557 ซึ่งห้ามรวมตัวหรือชุมนุมทางการเมืองของบุคคลกว่าห้าคนขึ้นไป

Front Line Defenders ขอแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการออกหมายเรียกและการสอบสวนนายบารมี ชัยรัตน์ เราเชื่อว่าการกระทำเหล่านี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบเพื่อคุ้มครองสิทธิ มนุษยชน

Front Line Defenders เรียกร้องทางการไทยให้

ยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อนายบารมี ชัยรัตน์ ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน เนื่องจาก Front Line Defenders เชื่อว่าการกระทำของเขาเป็นไปเพื่อสนับสนุนนักศึกษาที่เป็นนักเคลื่อนไหว และเป็นการทำงานคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างชอบธรรมและอย่างสงบ

ประกัน ว่าไม่ว่าในพฤติการณ์ใด ๆ ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนทุกคนในไทยจะต้องสามารถปฏิบัติหน้าที่ด้านสิทธิมนุษย ชนที่ชอบธรรมได้โดยไม่ต้องหวาดกลัวกับการตอบโต้ และไม่ถูกจำกัดสิทธิใด ๆ

Front Line Defenders ขอเตือนท่านด้วยความเคารพถึงปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิและความรับผิดชอบ ของบุคคล กลุ่ม และหน่วยงานในสังคม เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ ขั้นพื้นฐานอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล (United Nations Declaration on the Right and Responsibility of Individuals, Groups and Organs of Society to Promote and Protect Universally Recognized Human Rights and Fundamental Freedom) ซึ่งรับรองเป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2541 ซึ่งยอมรับความชอบธรรมของการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน สิทธิของพวกเขาที่จะมีเสรีภาพในการสมาคมและการทำกิจกรรมโดยไม่ต้องกลัวการ ตอบโต้ ทั้งเราหวังจะเรียนให้ท่านทราบโดยเฉพาะข้อ 6 (b): ที่ระบุว่า “บุคคลทุกคนมีสิทธิทั้งในส่วนบุคคลและจากการรวมตัวกับคนอื่น ๆ (b) ทั้งที่มีการคุ้มครองตามกฎบัตรสิทธิมนุษยชนและกฎบัตรระหว่างประเทศที่มีผล บังคับใช้อื่น ๆ ในการตีพิมพ์ เผยแพร่ หรือสื่อสารความเห็น ข้อมูลและความรู้ใด ๆ เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานทั้งปวง” และข้อ 12 (2): ที่ระบุว่า “รัฐจะต้องดำเนินมาตรการทั้งปวงที่จำเป็นเพื่อประกันให้หน่วยงานที่มีอำนาจ คุ้มครองบุคคลทุกคนทั้งในส่วนบุคคลและจากการรวมตัวกับคนอื่น ๆ ให้ปลอดจากความรุนแรง การคุกคาม การตอบโต้ การเลือกปฏิบัติร้ายแรงทั้งในทางพฤตินัยหรือนิตินัย แรงกดดันหรือการกระทำโดยพลการใด ๆ อันเป็นผลมาจากการใช้สิทธิของตนอย่างชอบธรรม ตามที่คุ้มครองไว้ปฏิญญาฉบับนี้”

กรุณาแจ้งให้เราทราบหากท่านตัดสินใจดำเนินการใด ๆ ในกรณีนี้ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

Mary Lawlor

ผู้อำนวยการบริหาร

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net