Skip to main content
sharethis

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเผยแพร่รูปสเก็ตซ์ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ และเตรียมขออนุมัติหมายจับข้อหาทำให้เกิดระเบิด-ฆ่าคนตายโดยเจตนา ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ ตั้งรางวัลผู้ชี้เบาะแส 1 ล้านบาท และยังไม่เชื่อว่าเป็นชาวต่างชาติ เพราะเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ-แถมรู้ช่องทางหลบหนี

ที่มาของภาพ: ทวิตเตอร์ ‏@Dr_Prawut 

19 ส.ค. 2558 - เมื่อเวลา 15.11 น. วันนี้ ทวิตเตอร์ ‏@Dr_Prawut ของ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เผยแพร่รูปสเก็ตซ์ผู้ต้องสงสัยคดีวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งเป็นชายสวมเสื้อสีเหลือง จากบันทึกภาพในกล้องวงจรปิด ทั้งนี้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมชุดสืบสวนคดีระเบิดระบุว่าเตรียมยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขออนุมัติหมายจับใน 2 ข้อหาหนัก คือ ทำให้เกิดการระเบิด และฆ่าคนตายโดยเจตนา

ทั้งนี้จากข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ระบุว่า ส่วนราชการเจ้าของเรื่องคือ สน.ลุมพินี ประเภทคดี ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ระดับความใกล้เคียงของภาพสเก็ตซ์ อยู่ในระดับ ใกล้เคียง

ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงภายหลังประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดศาลพระพรหมว่า ยังไม่แน่ชัดว่า ชายใส่เสื้อสีเหลืองคือชาวต่างชาติหรือไม่ เนื่องจากเชื่อว่ามีการอำพรางใบหน้า และทำเป็นขบวนการมากกว่า 1 คน ชายคนดังกล่าวรู้ช่องทางหลบหนีเป็นอย่างดี โดยได้กำชับตำรวจตรวจสอบบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุทุกคน และยังไม่ปักใจเชื่อว่าเหตุระเบิดครั้งนี้มือระเบิดมีเป้าหมายสังหารนักท่องเที่ยวชาวจีน

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า เหตุระเบิดศาลพระพรหม อาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดหน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมตั้งรางวัลนำจับผู้ชี้เบาะแสมือระเบิด 1 ล้านบาทด้วย

ก่อนหน้านั้น ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ. จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผบ.ตร. และนาง สุภาณี วัฒนวิจารณ์ กรรมการเหรัญญิกมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพล.ต.อ.จรัมพรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่พบฝาเกลียว คล้ายๆ ท่อพีวีซี เจอเศษลูกปรายจำนวนมาก นำไปตรวจสอบตามขั้นตอนในกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อหาสารเคมีตกค้าง ชนิดดินปืน ยังเร็วเกินไปที่เจ้าหน้าที่จะฟันธงว่าเป็นระเบิดชนิดใด แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะใช้การหน่วงเวลา

เวลา 10.45 น. มีกลุ่มดับเบิลยูไทยแลนด์ จำนวน 5 คน เดินทางมาที่แยกราชประสงค์ วางดอกกุหลาบและข้อความไว้อาลัย ประณามผู้ที่ก่อเหตุ โดยนำมาวางไว้ที่เสาตอม่อสกายวอล์ก ฝั่งถนนพระราม 1 ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กทม. ใช้รถน้ำฉีดพื้นถนนทั้งฝั่งถนนราชดำริและถนนพระราม 1 ทำความสะอาดเส้นทางให้ พร้อมเปิดการจราจรในเวลา 12.00 น. วันที่ 18 ส.ค.นี้
 
ย้ำไม่ใช่ระเบิดแบบ 3 จว.ใต้
 
ขณะ ที่ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพื่อสรุปสถานการณ์ล่าสุดทั้งตัวเลขผู้บาดเจ็บ ทั้งไทยและต่างประเทศ ก่อนแจ้งให้สถานทูตประเทศต่างๆ ได้รับทราบ พร้อมนำกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ นายกฯ สั่งการให้ตั้งทีมงาน หรือตัวแทนรัฐบาลไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บตามร.พ.ต่างๆ นายกฯ กำชับว่าเจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมหลักฐานและ สิ่งบอกเหตุต่างๆ นำไปสู่การสืบสวนสอบสวนให้ได้ แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไหน
 
รอง โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าระเบิดที่พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ถือว่าร้ายแรงและไม่เคยเกิดขึ้นในภาคใต้ ทำขึ้นมาเพื่อใช้งานนี้โดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน ก็มีความพยายามสร้างความตื่นตระหนกผ่านโซเชี่ยลต่างๆ ให้ข้อมูลเพื่อให้สับสน เช่น ยอดผู้เสียชีวิต การเผยแพร่ภาพที่น่ากลัว หรือระบุว่าสภากาชาดต้องการเลือด จะนำสิ่งเหล่านี้มาพิจารณาด้วยว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร เพราะเป็นความพยายามกระจายข่าวให้รวดเร็ว เป็นความพยายามของเครือข่าย ที่จะสร้างสถานการณ์ ไม่ใช่ให้เกิดขึ้นแล้วจบไป มีการวางแผนและเตรียมการปฏิบัติการทางด้านจิตวิทยาด้วย
 
สอบพยานชี้พูดอังกฤษเป็นคำๆ
 
ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บก.สส.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ถนนพญาไท พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. เรียกตัวแทนจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บก.สส.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) บช.น. กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) เพื่อหาชนิดวัตถุระเบิดและการสืบสวนติดตามหาตัวคนร้าย โดยมติชนออนไลน์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่รับชายเสื้อเหลืองไปจากราชประสงค์ ได้ข้อเท็จจริงว่า ชายดังกล่าวให้ไปส่งที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ โดยใช้เส้นทางสีลม ศาลาแดง แล้วไปลงที่ซอยแห่งหนึ่งที่มีเกสต์เฮาส์หรือโรงแรมอยู่ โดยชายดังกล่าวใช้ภาษาอังกฤษ แต่พูดด้วยคำสั้นๆ นอกจากนี้ยังสอบพยานอีกรายที่ให้การว่า หลังจากนั้นพบว่าชายดังกล่าวเรียกแท็กซี่ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ
 
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ชุดสืบสวนนำกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ พบว่ามีชายคนหนึ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนที่ชายเสื้อเหลืองที่ลงมือก่อเหตุจะนั่งเก้าอี้แทน ทางฝ่ายสืบสวนกำลังตรวจสอบบุคคลตามภาพวงจรปิดดังกล่าวเพื่อนำมาสอบสวนหารายละเอียดต่อไป

 

 

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 14.26 น. จากทวิตเตอร์ @js100radio เกิดเหตุพบวัตถุต้องสงสัยในถุงสีดำ พันด้วยเทปกาว วางทิ้งบนทางเท้า ถ.สุขุมวิท ขาออก ปากซอยสุขุมวิท 7 ใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS นานา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ขณะที่สถานี BTS นานายังขึ้น-ลงได้ตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ปิดกั้นเฉพาะฝั่งทางออกมุ่งหน้าไปสถานีเพลินจิต อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเวลา 14.50 น. เปิดการจราจรเป็นปกติแล้ว เจ้าหน้าที่พบว่าวัตถุต้องสงสัยภายในเป็นกล่องเปล่า

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net