Skip to main content
sharethis

ผู้อำนวยการ สพม. เขต 31  สั่งย้าย รอง ผอ.เสิงสาง ในคลิปตบหัวนักเรียนประท้วงโรงเรียนเก็บค่า SMS พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงและวินัย ด้านนักเรียนในคลิปเผยว่าต้องการให้มีการตรวจสอบการทำงานของผู้บริหาร โครงการที่ทำขึ้นมาสอดคล้องความเป็นจริงหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบการเก็บเงินค่า SMS

ภาพจากคลิปเหตุการณ์นักเรียนประท้วงนโยบายเก็บค่า SMS ของผู้บริหารโรงเรียนเสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2558

22 ส.ค. 2558 - หลังจากเมื่อวานนี้ มีการเผยแพร่คลิปจากโรงเรียนเสิงสาง บ้านบัวหลวง ต.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา บันทึกเหตุการณ์นักเรียนประท้วงโรงเรียนเก็บค่า SMS เพื่อใช้สื่อสารระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครอง และโดยคลิปประธานนักเรียนซึ่งนำการประท้วง ถูกชายคนหนึ่งเรียกตัวเองว่า "รอง" ต่อมาทราบชื่อคือ ไอสูรย์ปิยธร จุฑาธรรม ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ โรงเรียนเสิงสาง เข้ามาตบศีรษะนักเรียนที่เป็นประธานนักเรียน รวมทั้งพูดว่าขอดูอวัยวะเพศชายของนักเรียนด้วย ทำให้อาจารย์ท่านอื่นต้องเข้ามาช่วยห้ามปรามนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ล่าสุด สำนักข่าวไทย รายงานว่า ชูเกียรติ วิเศษเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 (สพม.31) ซึ่งดูแลรับผิดชอบโรงเรียนมัธยมศึกษาใน จ.นครราชสีมา รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุ และตั้งกรรมการสอบสวนวินัย รองผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสางคนนี้แล้ว ขณะเดียวกันได้ย้ายผู้บริหารรายดังกล่าวมาช่วยราชการที่ สพม. เขต 31 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 ส.ค. สำหรับสาเหตุที่นักเรียนชุมนุมประท้วง เนื่องจากไม่พอใจการบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งไม่ได้ระบุว่าผู้ใด และมีข้อสงสัย 3-4 เรื่อง เกี่ยวกับการเก็บเงินนักเรียน เช่น เงินค่า SMS ขณะที่พฤติกรรมของ รอง ผอ. คนนี้ มองว่าการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และไม่ควรเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในสถานศึกษา

ขณะเดียวกันในวันนี้เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ดำเนินรายการโดยสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา นำเหตุการณ์นี้ไปรายงานด้วย (ชมคลิป)

ต่อมาประธานนักเรียนคนดังกล่าว ได้โพสต์ชี้แจงจุดประท้วงการเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊คบัญชีของเขาว่า

"จุดประสงค์

1. เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการทำงานของคณะผู้ปฏิบัติงาน
2. เพื่อก่อให้เกิดสิทธิ์อันพึงมีและพึงได้ของนักเรียนผู้ได้รับผลประโยชน์จากโรงเรียนโดยตรง
3. เพื่อรับรู้ความเป็นไปของระบบโครงการต่างๆ อันโรงเรียนจัดทำขึ้นว่าสอดคล้องต่อความเป็นจริงหรือเปล่า
4. เพื่อแสดงความคิดเห็นอันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

หัวข้อ

1. ข้อสงสัยในการทำงานที่ไม่โปร่งใสของคณะผู้ปฏิบัติงานไม่มีการแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียด ปล่อยปะละเลยการที่จะออกมาชี้แจงถึงกระบวนการทำงานเมื่อมีการเกิดการตั้งข้อสงสัย
2. โครงการอันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงเช่น sms มีการบังคับจ่าย เป็นต้น
3. การก่อสร้างสิ่งอันไม่จำเป็นโดยไม่เล็งเห็นถึงสิ่งจำเป็นที่ควรแก้ไข เช่นห้องน้ำ รั้วกั้นสวนหย่อมภายในก่อให้เกิดทัศนียภาพอันสวยงามกว่า
4. การติดกล้องวงจรปิดอันไม่ถั่วถึงและไม่สามารถทำงานได้จริงเพราะไม่เห็นประสิทธิภาพของมัน และไม่เต็มกำลังของงบที่จัดสรรให้ก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
5. ปัญหาของโรงรถที่จัดทำขึ้นอันโรงเรียนไม่ยอมรับผิดชอบในการดูแลรถของนักเรียนทำให้เกิดการไม่ไว้วางใจในการฝากรถกับโรงเรียน

6. การเก็บเงินเบ็ดเตล็ดนักเรียนในอัตราที่เพิ่มขึ้นแต่สวัสดิการเท่าเดิมหรือไม่ก็ลดลงอันไม่สามารถชี้แจงให้เห็นได้ถึงเหตุผลที่มันเพิ่มขึ้น
7. การที่มีครูพูดถึงปัญหาหนี้สินของโรงเรียนที่มากและเพิ่มขึ้นทุกปีอันแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมหลายๆ อย่างของโรงเรียน แต่โรงเรียนยังมีการจัดสร้างจัดทำสิ่งอันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงในหลายๆ อย่างเช่นกัน ซึ่งขัดกับปัญหาที่เกิดขึ้น"

ขณะที่ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ได้อัดคลิปและเผยแพร่ 2 ครั้ง (ชมคลิป 1, 2) เพื่อตั้งข้อสงสัยในความไม่ชอบมาพากลในการใช้เงินของโรงเรียนหลายกรณี เช่น เก็บค่าอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแต่เล่นแทบไม่ได้ และ ค่า SMS ซึ่งเขาเห็นว่าไม่มีประโยชน์ และไม่คุ้มเนื่องจากเก็บเงินเกินความเป็นจริง และตั้งข้อสงสัยนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ว่าไม่ฟรีจริง และกลับมีค่าใช้จ่ายเกินจริงหลายอย่าง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net