Skip to main content
sharethis

24 ส.ค.2558  สมาคมผู้สื่อข่าวยต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) เผยแพร่แถลงการณ์กรณีนักข่าวฮ่องกงถูกกักตัวและแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองอาวุธ ตามพ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 กรณีมีเสื้อเกราะซึ่งนับเป็นยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง ขณะเตรียมขึ้นเครื่องบินกลับฮ่องกงที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังเสร็จสิ้นการรายงานข่าวระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณ

แถลงการณ์ของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฯ ระบุว่า  คดีดังกล่าวจะถูกพิจารณาในศาลทหาร ทางสมาคมฯ เห็นว่าเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยไม่ใช่อาวุธและผู้สื่อข่าวไม่สมควรได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศต่างมีนโยบายให้ผู้สื่อข่าวใส่เสื้อเกราะโดยเปิดเผยในเวลาลงทำงานภาคสนามที่มีอันตราย โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ปี 2553 ที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศเสียชีวิตถึง 2 รายยิ่งทำให้เห็นว่าสิ่งป้องกันเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น

“ที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องให้ทางการไทยตรวจสอบประเด็นนี้ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวสามารถหาซื้อ นำเข้า และใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเช่นนี้ กรณีของแอนโทนี่ กวาน เป็นโอกาสเหมาะที่จำเป็นจะต้องหาทางออก เราเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกการตั้งข้อหาทางอาญาต่อแอนโทนี่ กวาน และทำงานร่วมกับสมาคมสื่อในประเทศไทยเพื่อยกเลิกการตั้งความผิดทางอาญาต่อการมีเสื้อเกราะ หมวกนิรภัย และอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ ในครอบครอง” แถลงการณ์ระบุ

โจนาธาน เฮด ประธาน FCCT กล่าวว่า ยังไม่ยืนยันว่าคดีของนักข่าวรายนี้จะไปศาลใด แต่นับแต่หลังรัฐประหารเป็นต้นมา ข้อหาเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธมักไปที่ศาลทหาร ตอนนี้ต้องรอว่าตำรวจว่าจะดำเนินคดีหรือไม่  หากถูกดำเนินคดีจะถูกข้อหาครอบครองอาวุธผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมาสำนักข่าวที่ฮ่องกงได้บินมาเพื่อช่วยคดีทำให้นักข่าวคนดังกล่าวได้รับการประกันตัวเมื่อเช้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดพาสปอร์ตไว้ 12 วัน

"สิ่งที่น่าสนใจคือนี่เป็นครั้งแรกที่จะดำเนินคดีกับนักข่าวที่มีเสื้อเกราะในครอบครองในสถานการณ์ใหม่นี้ และอย่างที่รู้ปัญหาตอนนี้ ตามข่าวเหตุระเบิดที่มีคนฮ่องกงตาย หลายปีมานี้ นักข่าวต่างประเทศที่มาไทยก็ใช้เสื้อเกราะ และไม่มีใครว่าอะไร" เฮดกล่าว

ฉ่ามยี่หลัน ประธานสมาคมสื่อฮ่องกง ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า โดยตั้งคำถามว่า ทำไมนักข่าวจึงถูกคุมตัวจากการถืออุปกรณ์ป้องกันตัว โดยเธอบอกว่า มันเป็นเรื่องปกติมากๆ สำหรับนักข่าวสงครามที่จะมีอุปกรณ์แบบนี้และชี้ว่า มันไม่ใช่อาวุธแน่ๆ และไม่มีเหตุผลที่ดีพอที่จะคุมตัวเขา

 

หมายเหตุ ประชาไทขออภัยในความผิดพลาด มีการแก้ไขเนื้อหาบางส่วน เวลา 15.20 น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net