Skip to main content
sharethis

บอร์ด กสท. ลงมติให้ตักเตือนช่อง 1TV กับ วอยซ์ทีวี นำเสนอเนื้อหาขัดประกาศ คสช. และรายการข่าวทางช่อง 7 เสนอเนื้อหากระทบศีลธรรมขัดมาตรา 37 ด้านสุภิญญาแจง ส่วนตัวรับได้ถ้าวิจารณ์การเมืองด้วยเหตุผล

24 ส.ค. 2558 เว็บไซต์สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการแทนรองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 26/2558 มีวาระพิจารณาข้อร้องเรียนเนื้อหารายการโทรทัศน์ กรณีรายการสนามข่าวเจ็ดสี ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ออกอากาศเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เวลา 07.49 น. โดยมีการร้องเรียนว่ามีเนื้อหากระทบกับศีลธรรมอันดี กรณีเผยแพร่คลิปโยนแมวที่มีชีวิตให้จระเข้กิน และรายการเดียวกันวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 07.00-09.00 น. ที่เป็นการเสนอข่าวสวนน้ำระเบิดที่ต่างประเทศ มติที่ประชุมเสียงข้างมากมีความเห็นว่าการออกอากาศรายการสนามข่าวเจ็ดสีมีเนื้อหาไม่เหมาะสม ขัดต่อมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.​2551 จึงมีมติให้มีคำสั่งทางปกครองเตือนให้สถานีปรับปรุงการออกอากาศรายการ และมอบหมายคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการเชิญผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจการนำคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ออกอากาศ

นายสมบัติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียน รายการเส้นผมบังภูเขา ออกอากาศวันที่ 6 พ.ค. เวลา 09.00-10.00 น. และรายการแฉกระจาย ออกอากาศวันที่ 19 มิ.ย. และวันที่ 22 มิ.ย. เวลา 09.00-10.00 น. ทางช่องรายการ 1TV โดยบอร์ดพิจารณาเห็นว่าการออกอากาศรายการดังกล่าวมีเนื้อหาขัดต่อประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97/2557 และประกาศ คสช.ฉบับที่ 103 จึงมีมติให้มีหนังสือแจ้งเตือนบริษัทพีแอนด์พีชาแนลในกรณีดังกล่าว นอกจากนี้เห็นว่าเนื้อหามีเรื่องการโฆษณาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงให้คณะอนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์แห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบการโฆษณาว่าการโฆษณาขัดต่อกฎหมายหรือไม่อย่างไร และให้คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการเชิญผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจถึงเนื้อหารายการที่เหมาะสม

นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาการออกอากาศ  Tonight Thailand ช่อง Voice TV เมื่อวันที่ 13 ก.ค. เวลา 21.30-22.45 น. โดยรายการวันดังกล่าวเสนอเนื้อหาการนำมาตรา 116 ของรัฐธรมนูญกับศาลทหาร คณะกรรมการเสียงข้างมากเห็นว่าการออกอากาศรายการดังกล่าวมีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 และประกาศคสช.ฉบับที่ 103 จึงมีมติให้สำนักงานฯ ทำหนังสือเตือนไปยังสถานีวอยซ์ทีวี

 

ด้านสุภิญญา กลางณรงค์ หนึ่งในบอร์ด กสท. แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อกรณีดังกล่าวระบุ กรณีช่อง 7 นั้น บอร์ด กสท. มีมติ 3:2 ให้ส่งจดหมายทางปกครองเตือนช่อง 7 ออนแอร์คลิปข่าวขัดมาตรา 37 ขัดศีลธรรมอันดีเสื่อมทรามจิตใจ กรณีทรมานสัตว์และไฟคลอก โดยตนเองอยู่ฝ่ายข้างมาก 3 เสียง ที่ลงมติให้เตือนช่อง 7 เรื่องออนแอร์คลิปข่าว *คนโยนแมวให้จระเข้กิน และข่าว*คนถูกไฟคลอก แบบไม่เบลอ

"ถ้าดูมาตรฐานข่าวโทรทัศน์ของต่างประเทศ เขาจะไม่ปล่อยภาพข่าวการทรมานสัตว์อย่างโจ่งแจ้งหรือภาพข่าวคนถูกไฟคลอก ออกสื่อชัดแบบ HD ขนาดนั้น ทว่า คลิปข่าว โยนแมวให้จระเข้กินและภาพคนถูกไฟคลอกแบบระยะใกล้ชัดเจนนี้มี กสท. 2 ท่าน ลงมติว่าไม่ผิดมาตรา 37 แต่กรณีนี้ดิฉันเห็นว่าผิด" สุภิญญาระบุและว่า อย่างไรก็ตาม รอบนี้ กสท.เสียงข้างมากจึงให้มีมติตักเตือนช่อง 7 ก่อน ยังไม่ได้ใช้โทษปรับ และให้เชิญทุกช่องมาทำความเข้าใจร่วมกันเรื่องคลิปข่าว

"ระยะหลัง ช่องทีวี นำคลิปข่าวมาออนแอร์ในช่วงข่าวมากขึ้น โดยไม่ได้กลั่นกรองให้รอบคอบ อาทิคลิปเด็กตบกันรุนแรง แม้ดูในเน็ตได้ ใช่ว่าควรออกทีวี คลิปข่าวประเภทเห็นภาพการทรมานสัตว์ ทรมานคน หรือภาพรุนแรงชัดเจน แม้อาจหาดูทางอินเทอร์เน็ตได้ ก็ใช่ว่าจะออนแอร์หน้าจอทีวีได้ ฝากทุกช่องด้วยค่ะ"

สุภิญญา ระบุว่า ข่าวที่เสนอภาพการทรมานสัตว์ กับ สารคดีธรรมชาติที่เสนอวงจรชีวิตของสัตว์ที่อาจกินกันเองนั้น ไม่เหมือนกัน มาตรฐานสากลเขาระวังภาพข่าวแบบนี้มาก ภาพข่าววิดิโอไฟไหม้สวนน้ำในไต้หวัน ที่ปรึกษาดิฉันลองค้นคลิปข่าวของอังกฤษดู เขาไม่เสนอภาพซูมเห็นคนถูกไฟคลอกในระยะใกล้เหมือนข่าวในช่อง 7 คลิปนี้ จริงๆ อนุกรรมการด้านเนื้อหาฯเสนอให้ปรับช่อง 7 แต่เคสนี้เสียงไม่เอกฉันท์ อภิปรายกันไปมา เลยสรุปให้ส่งจดหมายเตือนทางปกครองก่อน ครั้งต่อไปจะปรับ นอกนั้นจาก มติ กสท. ให้ สนง.เชิญทีวีทุกช่องมาทำความเข้าใจอีกครั้งเรื่องแนวทงการนำคลิปข่าวต่างๆ มาออนแอร์โดยเฉพาะคลิปที่ผลิตซ้ำความรุนแรง

"ปรกติ ดิฉันไม่ค่อยเห็นด้วยในการลงโทษตามมาตรา 37 พร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะถ้าเป็นเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น แต่ถ้าภาพข่าวรุนแรง ทรมานชัดเจน จะให้ผิด กรณีคลิปข่าวโยนแมวให้จระเข้กินในบ่อ รอบนี้ก็เข้าข่ายขัดมาตรา37 ทั้งเรื่องศีลธรรมอันดีและ เสื่อมทรามจิตใจ แต่ถ้าช่อง 7 ไม่เห็นว่าผิดก็แย้งได้ ถ้าใครเห็นคลิปแนวรุนแรงแบบนี้ออนแอร์ในทีวีช่องใดอีก ก็โทรร้องเรียนได้ที่ 1200 ค่ะ เรื่องก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณา เช่นเดียวกับเรื่องวันนี้"

ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนละครน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ตอน 'พลาด' ของช่อง 3 มีเนื้อหาว่านักเรียนท้องแล้วมาเรียนได้ตามปรกติแล้วถูกกฎหมาย ว่าเข้าข่ายเนื้อหาไม่เหมาะสมนั้น  ในขั้นอนุกรรมการเนื้อหาฯ ลงมติว่าไม่ผิด ดังนั้น ในชั้น กสท. ก็รับทราบและยุติเรื่องไปวันนี้   ทั้งนี้ การที่ละครไทยเริ่มนำเสนอเรื่องราวของวัยรุ่นที่พลาดแล้วท้อง แล้วไปเรียนหนังสือได้ ใช่ว่าจะขัดศีลธรรมอันดีในตัวเอง ขึ้นอยู่กับบทที่นำเสนอด้วย ทางตรงข้าม ถ้านำเสนอได้ดี อาจมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของเยาวชนด้วย

สุภิญญา กล่าวถึงกรณีรายการ Tonight Thailand ช่อง Voice TV ว่า กรรมการมีมติ 3:2 ลงว่าขัดประกาศ คสช. กรณีนี้ตนเองอยู่ฝ่าย 2 เสียงข้างน้อย พิจารณาว่ายังไม่ผิดขนาดนั้น โดยกรณีนี้เป็นการอภิปรายเรื่องการฟ้องร้องตามมาตรา 116 และศาลทหาร ยังไม่เข้าข่ายขัดมาตรา 37 หรือประกาศ คสช. เรื่องปลุกปั่นขัดความสงบเรียบร้อย ในวาระนี้ มีการอภิปรายกันไปมา เสียงไม่เอกฉันท์ ฝ่ายเสียงข้างมากจึงมีมติให้เตือนทางปกครองก่อน ส่วนตนเองสงวนความเห็นต่างไว้ในกรณีนี้ วันนี้เดาใจกรรมการ กสท. เรื่องการกำกับเนื้อหายาก มติโหวตสลับกันไปมา ไม่เอกฉันท์ แต่มีการอภิปรายโต้แย้งกันด้วยเหตุผล ต่างคนต่างดุลยพินิจกัน

ส่วนวาระเรื่องร้องเรียน ช่อง1TV ทีวีดาวเทียมแนวการเมืองเลือกข้าง กสท.เห็นร่วมกันว่าขัดประกาศ คสช.ให้แจ้งเตือนทางปกครอง กรณีนี้ดิฉันก็เห็นด้วย

"ปรกติดิฉันไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องฐานผิดประกาศ คสช.นัก เพราะอยากให้พิจารณาตามมาตรา 37 ก่อน แต่รายการ 'แฉกระจาย' ที่ได้ดู อันนี้คิดว่าเกินกว่าเหตุ รายการ 'แฉกระจาย' นี้ ทางช่อง 1TV เองก็ยอมรับว่าผิดพลาด คุมไม่อยู่เพราะให้คนอื่นเช่าเวลา ดูแล้ว เป็นรายการวิจารณ์การเมืองที่เกินบรรยายเอามากๆ ดูรายการนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเป็นวิจารณ์การเมืองหรือบันเทิงกันแน่ ดังนั้น เวลากล่าวหาผู้อื่น จึงดูเป็นการเสียดสี ใส่ความ มากว่าการวิจารณ์ด้วยเหตุผล ในขณะที่นั่งวิจารณ์การเมือง คนดำเนินรายการทั้งคู่ ก็นั่งเล่นจิกเสื้อกันไปมา ดังนั้นถ้าไม่ใช่เป็นการวิจารณ์ด้วยสาระ เหตุผลแต่เอามันเข้าว่า ก็สมควรโดนตักเตือน"

ทั้งนี้ สุภิญญาระบุว่า จากที่ได้ดูคลิปรายการช่อง 1 TV ยังพบประเด็นที่อาจเข้าข่ายโฆษณาที่กระทบ เอาเปรียบผู้บริโภคด้วย กสท. ได้มอบให้สำนักด้านคุ้มครองผู้บริโภครับไปตรวจสอบและเข้าอนุคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป

"รายการแนวการเมือง กสท.บางท่านมองว่าการวิจารณ์เชิงวิชาการที่แม้พูดสุภาพแต่ลึกซึ้งนั้น น่ากลัวกว่าช่องที่พูดภาษากากๆ จึงตัดสินว่าผิด แต่ดิฉันมองต่าง ดุลยพินิจดิฉัน รับได้กับการวิจารณ์การเมืองด้วยเหตุผล แม้เป็นเชิงวิพากษ์แรง ลึก แต่จะรับไม่ได้ถ้าใช้ภาษาหยาบคาย กากๆ ไร้รสนิยมในการใส่ร้ายคนอื่น"

สุภิญญา ระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในเรื่องที่ตนเองเห็นว่าผิด แต่ถ้ายังไม่ถึงขั้นรุนแรงมาก ก็จะให้ความเป็นธรรมกับช่อง ด้วยการไต่ระดับลงโทษเป็นขั้นบันได วันนี้แม้ กสท.จะโหวตสวนกันไปมาทั้ง 3 กรณี และมติสุดท้าย คือให้ออกจดหมายเตือนทางปกครองต่อทั้ง 3 ช่อง ดังนั้น ครั้งถัดไปโทษก็จะสูงขึ้นได้แล้ว ทั้งนี้ อีกเส้นแบ่งหนึ่งที่ตนเองจะนำมาพิจารณาคือ รายการนั้นทางผู้ดำเนินรายการหรือช่องแสดงความเห็นเองเออเองหรือเป็นเพียงผู้ดำเนินรายการซักถาม เป็นต้น

สุภิญญา กล่าวว่า ช่องที่วิจารณ์การเมืองแนวกากๆ ใช้ภาษาไม่สุภาพ ใช้อารมณ์ไม่ใช้เหตุผล คงถูกมอนิเตอร์เป็นพิเศษ ขอให้ปรับตัว ถ้าเคสแบบนี้เข้ามา จะไม่ช่วยปกป้อง โดยจะปกป้องช่องที่โดนร้องเรียน แต่นำเสนอข้อมูล ความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ บนฐานเหตุผล เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามกรอบสิทธิเสรีภาพที่สื่อพึงทำและควรทำได้ พร้อมทิ้งท้ายว่า สำนักงาน จะเชิญช่องทีวีและโครงข่ายมาชี้แจงและพูดคุยเร็วๆ นี้สองเรื่องใหญ่ คือการโฆษณานอก Must carry ในดาวเทียม + เคเบิล และการกำกับเนื้อหาภาพรวม

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net