เหมืองแร่ทองคำขู่ฟ้องเด็ก ม.4 หลังรายงานผลกระทบผ่านนักข่าวพลเมือง TPBS

เหมืองแร่ทองคำ จังหวัดเลย ขู่ฟ้องนักข่าวพลเมือง นักเรียน ม.4 หลังรายงานผลกระทบจากการทำเหมืองผ่านนักข่าวพลเมือง TPBS แต่เห็นเป็นเด็กจึงไม่อยากเอาเรื่อง พร้อมแนะให้ไปแจ้งความว่าถูกบังคับให้รายงานผลกระทบ

9 ก.ย. 2558 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า หลัง "ค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ ตอน นักสืบลำน้ำฮวยแท้ๆ แน๊ว" ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28-30 ส.ค. 2558 ที่วัดโนนสว่าง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย จบลง ในวันที่ 6 ก.ย. 2558 ได้มีการเรียกตัว น.ส.เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน) นักข่าวพลเมือง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศรีสงคราม ไปพบกับบ้านผู้ใหญ่บ้านภูทับฟ้าพัฒนา ตัวแทนของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด 3 คน และรองนายก อบต.เขาหลวง เนื่องจาก น.ส.เอ ได้รายงานข่าวการจัดกิจกรรมผ่าน รายการนักข่าวพลเมือง ตอนค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา น.ส.เอ ให้ข้อมูลว่า หลังเลิกเรียน สุภาพ พรมมณี  ผู้ใหญ่บ้านภูทับฟ้าพัฒนา ได้มาหาตนที่บ้าน โดยขอดูบัตรประชาชนและถ่ายรูปเก็บไว้ พร้อมชี้แจงว่าจะต้องเอาไปส่งให้ทางบริษัททุ่งคำดู เนื่องจากบริษัทเตรียมที่จะฟ้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดค่ายเยาวชน และการรายงานข่าวดังกล่าว

ต่อมาในวันที่ 6 ก.ย. เวลา 11.00 น. น.ส.เอ และสมาชิกในครอบครัวได้เดินทางไปพบกับผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนของบริษัท และรองนายกอบต. ตามที่ผู้ใหญ่บ้านได้นัดหมายไว้ในช่วงเช้า โดยตัวแทนบริษัทได้ซักถามว่าถึงการรายงานข่าวว่า น.ส.เอ ถูกบังคับให้รายงานหรือไม่ พร้อมแนะนำว่าให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เพื่อที่จะไม่ต้องถึงฟ้องร้องดำเนินคดี เนื่องจากสิ่งรายงานข่าวออกไปนั้น ทำให้บริษัทสูญเสียความเชื่อมั่น เพราะเหมืองไม่มีสารพิษ และลำน้ำฮวยก็ไม่ได้ไหลผ่านเหมือง โดยทางบริษัทจะฟ้องดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท ทางสื่อโฆษณา และพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ โดยจะฟ้องร้องคนที่จัดค่ายครั้งนี้ทุกคน รวมถึงผู้ประกาศข่าว และไทยพีบีเอสด้วย

"ลงบันทึกประจำวันไว้ จะได้บล็อกตัวเองว่าหนูไม่ได้พูด เขาบังคับให้หนูพูด จะได้บล็อกตัวเองว่าหนูไม่เกี่ยว ทีแรกไม่รู้ว่าเป็นเด็ก เพราะเขียนว่าคุณ เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน) แต่หนูอยู่ ม.4 ใช่ไหม"

"เหมืองไม่ได้มีนโยบายทำร้ายเด็ก ไม่ต้องการเอาเด็กเข้าคุก เพราะเด็กนั้นไม่เกี่ยวอยู่แล้ว เพียงต้องการกันไว้เป็นพยาน หากหนูไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ หนูจะไม่เกี่ยว แต่คนพวกนี้ที่มาทำค่ายฯ จะถูกฟ้องทั้งหมด" ตัวแทนบริษัทกล่าว

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปทางน.ส.เอ ต่อกรณีดังกล่าว เธอเล่าว่า ตอนแรกตกใจมาก และร้องไห้ ทำอะไรไม่ถูก ยิ่งตอนที่ผู้ใหญ่บ้านมาถ่ายรูปไปให้กับเหมืองก็ยิ่งกลัว แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิด จึงจะไม่ไปแจ้งความตามที่บอก

ขณะเดียวกัน กลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม ซึ่งมาจัดค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ ได้ให้ข้อมูลต่อกรณีการขู่ฟ้องร้องว่า หลังจากได้ทราบข่าวก็ได้พูดคุยกัน และได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ให้กำลังใจ โดยบอกกับน.ส.เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน)ว่า จะไม่ทิ้งไปไหน หากมีการฟ้องร้องจริงๆ ทางกลุ่มพร้อมจะยอมรับ และเผชิญหน้ากับการฟ้องคดีครั้งนี้ และจะเคารพในการตัดสินใจของน.ส.เอ และครอบครัว หากจำเป็นต้องไปแจ้งความตามที่ทางบริษัทต้องการ ทั้งนี้ทางกลุ่มยืนยันที่จะสู้ เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ได้เป็นสิ่งผิด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท