Skip to main content
sharethis

14 ก.ย. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิเด็ก  สตรี และความเสมอภาคของบุคคล แจ้งว่า ตามที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้เห็นชอบพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2558 ซึ่งกำหนดให้การครอบครองเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่นและส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กที่อายุไม่เกิน 18 ปีถือเป็นความผิด และเพิ่มโทษให้หนักขึ้นสำหรับความผิดเกี่ยวการค้าหรือทำให้แพร่หลายซึ่งวัตถุหรือสิ่งลามกอนาจารเด็ก โดยมีหลักการว่าการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของเด็ก ประกอบกับความผิดเกี่ยวกับการค้าหรือทำให้แพร่หลายซึ่งวัตถุหรือสื่อลามกไม่ได้แยกประเภทระหว่างสื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่กับสื่อลามกอนาจารเด็กไว้ทั้งที่ลักษณะความผิดมีความร้ายแรงแตกต่างกัน

วิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และประธานอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคล กล่าวว่า พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิเด็ก และป้องกันเด็กจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศมากขึ้น  อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักการของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เรื่อง  การขายเด็ก การค้าประเวณีเด็ก  และสื่อลามกที่เกี่ยวกับเด็ก  อันเน้นย้ำถึงความตั้งใจจริงของประเทศไทย

ทั้งนี้ คำว่า “สื่อลามกอนาจารเด็ก” ตามความหมายในพระราชบัญญัติฉบับนี้  หมายถึง “วัตถุหรือสิ่งที่แสดงให้รู้หรือเห็นถึงการกระทำทางเพศของเด็กหรือกับเด็กซึ่งมีอายุไม่เกินสิบแปดปีโดยรูป  เรื่อง  หรือลักษณะสามารถสื่อไปในทางลามกอนาจาร ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ  ภาพโฆษณา  เครื่องหมาย  รูปถ่าย  ภาพยนตร์  แถบบันทึกเสียง  แถบบันทึกภาพ  หรือรูปแบบอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกัน และให้หมายความรวมถึงวัตถุหรือสิ่งต่างๆ ข้างต้นที่จัดเก็บในระบบคอมพิวเตอร์ หรือในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นที่สามารถแสดงผลให้เข้าใจความหมายได้”

สุดท้ายนี้มีความเห็นว่า สังคมและชุมชนควรตระหนักและเห็นความจำเป็นที่จะขจัดการบริโภคสื่อลามกอนาจารที่เกี่ยวกับเด็ก ตลอดจนช่วยสอดส่องดูแล ป้องกันการกระทำความผิดดังกล่าวมิให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net