Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2558 พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง เรียกร้องให้ยุติการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยระบุว่า จากกรณีที่ คสช. สั่งการควบคุมตัว ประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์เนชั่น พิชัย นริพทะพันธุ์ และ การุณ โหสกุล สมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยได้มีการกักตัวเพื่อปรับทัศนคติ ให้เหตุผลเพียงว่า บุคคลดังกล่าวได้ให้ข้อมูล สัมภาษณ์และแสดงข้อคิดเห็นที่ไม่เป็นไปตามประกาศ คสช. และอาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศ และยังมีกลุ่มบุคคลเข้าทำร้ายร่างกาย วัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ รวมทั้งเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2558 ที่มีการควบคุมตัวพริษฐ์ ชิวารักษ์นักเรียนชั้น ม.5 และเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ไปยังสถานีตำรวจ สน. ปทุมวัน เหตุผลเพียงการยื่นป้ายแสดงความคิดเห็นต่อหน้านายกรัฐมนตรี

พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การใช้อำนาจพิเศษนี้เป็นการกระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างรุนแรง ซึ่งพรรคฯ ไม่อาจเห็นด้วยกับการใช้อำนาจดังกล่าว เพราะการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ตราบเท่าที่มิได้มีการกระทำที่ชี้นำไปสู่การยุยงหรือปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง

นอกจากนั้น การกระทำของฝ่ายผู้มีอำนาจเช่นนี้ ยังขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 4 ซึ่งพลเมืองไทยทุกคนต้องได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนี้ และตามพันธกรณีในเรื่องสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมกับสหประชาชาติ ดังนั้นการปฏิบัติและการกระทำที่เกิดขึ้นทั้งหมดดังกล่าว จึงเป็นการกระทำซึ่งกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

พรรคเพื่อไทย จึงขอแถลงดังนี้

1. ขอให้ยุติการคุกคามสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ด้วยการใช้อำนาจพิเศษทุกรูปแบบ หากเห็นว่าการกระทำใดเป็นการผิดกฎหมายที่รัฐสภาตราขึ้นใช้บังคับ ก็ขอให้ใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมปกติ ดำเนินการ

2. ขอให้ปล่อยตัวบุคคลที่ถูกควบคุมตัวดังกล่าวโดยทันทีและปราศจากเงื่อนไขใดๆ และยุติการใช้อำนาจพิเศษใดๆ ในลักษณะที่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอีกต่อไป

3. ยกเลิกคำสั่งและประกาศที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้เกิดการระดมความเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวางต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศด้านต่างๆ และไม่ควรเอาประเทศและประชาชนเป็นตัวประกันในการลองผิดลองถูกอีกต่อไป ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาด้วย

4. ขอให้ยุติการปิดโอกาสประชาชนที่เห็นต่าง และเปิดใจกว้างยอมรับข้อเท็จจริงของปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะของบุคคลในภาคส่วนต่างๆ โดยไม่มองอย่างอคติว่าบุคคลนั้นต้องการทำลายความมั่นคงและความอยู่รอดของรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายการเมืองฝั่งตรงข้าม

5. ต้องเร่งสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว และเร่งดำเนินการทุกอย่างเพื่อคืนประชาธิปไตยพร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งภายใต้กติกาที่มีความเป็นประชาธิปไตยและเป็นธรรมโดยเร็วต่อไป เพื่อสร้างการยอมรับจากนานาประเทศ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net