Skip to main content
sharethis

เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติค้านระเบียบกระทรวงศึกษาไม่สนับสนุนเงินรายหัวเด็กที่ไม่มีเลขประจำตัว 13 หลัก

28 ก.ย. 2558 เครือข่ายด้านประชากรข้ามชาติจัดงานสัมมนากรณีงบอุดหนุนรายหัวของเด็กไม่มีเอกสารในโรงเรียนเอกชน และแนวทางการแก้ไขปัญหาเด็กที่ไม่มีเอกสารในสถานศึกษา พบปัญหาสถานการณ์ปัญหาและข้อห่วงใยที่เกิดจากการออกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยมาตรการการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายหัว พ.ศ. 2558 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 ที่มีระบุเงื่อนไขการเข้าถึงการศึกษาของเด็กนักเรียนว่าต้องมีเลข 13หลักจากกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะทำให้เด็กนักเรียนจำนวนมากและโรงเรียนไม่ได้เงินสนับสนุน รวมทั้งหาแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีเด็กนักเรียนที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนหรือไม่มีเอกสารแสดงตนที่จะพัฒนาไปสู่การเข้าถึงการศึกษา และสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กนักเรียนกลุ่มนี้

งานสัมมนาซึ่งจัดที่สำนักกลางนักเรียนคริสเตียน บาทหลวง ดร.รังสิพล เปลี่ยนพันธุ์ เลขาธิการมูลนิธิคาทอลิกนครสวรรค์ ซึ่งจัดการศึกษาให้กับกลุ่มเด็กยากไร้และเด็กไร้สัญชาติ กล่าวว่า การจัดการศึกษานั้นเป็นการเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของเด็กไร้สัญชาติ ทำให้เด็กเข้าไม่ถึงระบบการศึกษา และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี

ด้านนายสุรพงษ์ กองจันทึก นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการไม่จัดเงินอุดหนุนรายหัวให้กับนักเรียนที่ไม่มีเลขประจำตัว หรือเลข 13 หลัก และนักเรียนที่มีอายุ ในโรงเรียนการศึกษาเอกชนนั้น ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 5 กรกฎาคม 2548 ที่ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดเงินสนับสนุนการศึกษาเป็นค่าใช้จ่ายรายหัว ซึ่งจะทำให้เด็กนักเรียนไม่ได้รับการศึกษาและโรงเรียนเอกชนการกุศลไม่มีเงินมาบริหารจัดการ ซึ่งส่งผลโดยตรงถึงคุณภาพการศึกษา และได้เสนอแนวทางในการแก้ไข ดังนี้

1. สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนต้องจัดเงินอุดหนุนให้เด็กทุกคน ทั้งที่มีเลขประจำตัว และไม่มีเลขประจำตัว

2. สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนต้องไปแก้ไขโดยการถอนระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายหัว พ.ศ.2558 ในข้อ 3ค. ที่ระบุว่า นักเรียนที่จะนำมาคำนวณเงินอุดหนุนต้อง “เป็นนักเรียนที่มีเลขประจำตัวประชาชนที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทย"

3. เด็กที่มีอายุเกินตามเกณฑ์ที่ สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนกำหนดแล้วไม่สนับสนุนค่าใช้จ่ายรายหัว ให้ตัดข้อนี้ออกไป รวมทั้งแบบในการขออนุญาต ในการขอจัดตั้งโรงเรียนเอกชน ในข้อกำหนดอายุของนักเรียนอย่างต่ำ และ อย่างสูง ก็ต้องตัดออกด้วย

4. ในระหว่างการแก้ไข ระเบียบดังกล่าว ต้องมีการจัดการ เรื่องการสนับสนุนเงินเงินอุดหนุนรายหัวของนักเรียนในโรงเรียนเอกชนทันที

ทางด้านนางรจนา สินที จากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่าหลังจากนี้ทุกปี กระทรวงศึกษาธิการคงจะต้องดำเนินการซักซ้อมแจ้งหน่วยงานการศึกษา และองค์กรการจัดการศึกษาทุกหน่วยงาน และจะประสานงานเพื่อนำมาสู่การแก้ไขปัญหาและไม่เกิดปัญหาเหล่านี้อีก

ทั้งนี้เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG)ได้แสดงจดหมายเปิดผนึก ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน  คัดค้านการจำกัดสิทธิของเด็กนักเรียนที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยมาตรการการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายหัว พ.ศ.2558และขอให้ดำเนินการจัดสรรงบรายหัว ให้แก่นักเรียนทุกคนที่เรียนอยู่จริงในโรงเรียน รวมทั้งขอให้กระทรวงศึกษาธิการ หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการกำหนดมาตาการในการแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน โดยการจัดทำทะเบียนประวัติตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net