พูดคุยกันถึงเพลงขบวนนักศึกษาจาก ‘เพื่อมวลชน’ ในยุค 14 ตุลา สู่อุดมการณ์ปฏิวัติในเพลง ‘จากลานโพธิ์ถึงภูพาน’ หลัง 6 ตุลา19 และเพลงโซลิดาริตี้กับความฝันถึงพลัง 3 ประสาน กรรมกร ชาวนาและนักศึกษา ยุคหลังป่าแตก
เนื่องในเดือนตุลาคมนี้จะมีวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย โดยเฉพาะขบวนการนักศึกษา 2 วันคือ ครบรอบ 39 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 และ 42 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 รายการ Soundtrack of Life ตอนนี้ ‘ดีเจเดน’ และ ‘ปลา’ หยิบยกบทเพลงที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนักศึกษา 3 บทเพลงมานำเสนอ
โดยเพลงแรกคือเพลง ‘เพื่อมวลชน’ ของวงกรรมาชน ในปี 2517 ที่แต่งคำร้องโดย กุลศักดิ์ เรืองคงเกียรติ/นพพร ยศฐา และแต่งทำนองโดย กุลศักดิ์ หรือจิ้น กรรมาชน ซึ่งเป็นวงที่ตั้งจากนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ในช่วง เหตุการณ์ 14 ตุลา เนื้อเพลงเป็นการมองถึงบทบาทของนักศึกษาที่ควรจะเป็นคือการรับใช้ประชาชน จากเนื้อเพลงที่ว่า
“ถ้าหากฉันเกิดเป็นนกที่โผบิน ติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล
จะขอเป็นนกพิราบขาว เพื่อชี้นำชาวประชาสู่เสรี
ถ้าหากฉันเกิดเป็นเมฆบนนภา จะนำพาความร่มเย็นเพื่อท้องนา
หากฉันเกิดเป็นเม็ดทราย จะถมกายเป็นทางเพื่อมวลชน
ชีวายอมพลีให้ มวลชนที่ทุกข์ทน ขอพลีตนไม่ว่าจะตายกี่ครั้ง”
นอกจากนี้ยังมีเพลง ‘หนุ่มสาวเสรี' ของ สุจิตต์ วงษ์เทศ ที่นำทำนองเพลงตับพระลอ มาเขียนเนื้อใหม่หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา เพื่อสดุดีการต่อสู้ของเยาวชน ด้วย เป็นต้น
หลังจากเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 ทำให้นักศึกษาเข้าไปมีบทบาทเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคมโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างกรรมกร ชาวนา กระทั่งถูกไล่ปราบปรามอีกครั้งจนมาถึงเหตุการณ์ล้อมปราบนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 6 ตุลา 19 ส่งผลให้นักศึกษาหลายคนต้องหนีเข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) ส่งผลให้เกิดเพลงต่อมาคือเพลง ‘จากลานโพธิ์ถึงภูพาน’ ที่แต่งคำร้อง โดย วัฒน์ วรรลยางกูร บันทึกเสียงเป็นคนแรก เมื่อ ตุลาคม 2520 เพลงนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น 'ดินสอโดม' และ ‘จากภูพานถึงลนโพธิ์’ ด้วย ตามความหมายที่ต้องการเน้น ที่สะท้อนสภาพการต่อสู้ของนักศึกษาหลักจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ที่ถูกบีบให้เข้าไปต่อสู้ในป่ากับ พคท. และนอกจากอารมณ์เพลงที่แสดงถึงความคับแค้นแล้วยังมีการปลุกใจและความใฝ่ฝันถึงชัยชนะในการต่อสู้ด้วย เช่นในท่อน
“อ้อมอกภูพานคือชีวิตใหม่ คือมหาวิทยาลัยคนกล้าหาญ
จะโค่นล้มไล่เฉดเผด็จการ อันธพาลอเมริกาอย่าหวังครอง
สู้กับปืนต้องมีปืนยืนกระหน่ำ พรรคชี้นำตะวันแดงสาดแสงส่อง
จรยุทธนำประชาสู่ฟ้าทอง กรรมาชีพลั่นกลองอย่างเกรียงไกร
ในวันนี้ลานโพธิ์ธรรมศาสตร์อาจเงียบหงอย ก็เพียงเพื่อรอคอยสู่วันใหม่
วันกองทัพประชาชนประกาศชัย จะกลับไปกรีดเลือดพาลล้างลานโพธิ์”
หลังจากป่าแตกบทบาทของนักศึกษาในทางการเมืองก็ดูเหมือนจะหายไปด้วย เช่นเดียวกับบทเพลงในช่วงการต่อสู้เข้มข้นก็ถูกผลิตออกมาจำนวนมาก เนื้อหามีตั้งแต่เบาๆ ไปถึงการปฏิวัติประชาชนอย่างเพลงข้างต้น เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนเพลงก็เปลี่ยนไปด้วย โดยเฉพาะเพลงที่พูดถึงนักศึกษาก็ลดลงด้วยทั้งปริมาณและความเข้มข้น เช่นเพลง มหาลัย ของ คาราบาว ในอัลบั้มเมด อิน ไทยแลนด์ ที่ออกปลายปี 2527 เนื้อหาเป็นเพียงการตั้งคำถามกับการเรียนในมาหาวิทยาลัย และโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
อย่างไรก็ตามยังมีเพลงที่พูดถึงบทบาทของนักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคม คือเพลงโซลิดาริตี้ ของวงภารดร ที่พูดถึงการต่อสู้โดยเฉพาะภาพฝันถึงพลัง 3 ประสาน คือ กรรมกร ชาวนาและนักศึกษา ซึ่งเป็นภาพเดียวกับช่วงปี 16 โดยเฉพาะท่อนที่ว่า
“มาพวกเรามาร่วมกันต่อสู้ มาพวกเรามารวมพลัง
สุดลำบากยากแค้นที่เราเผชิญ เราจะร่วมเดินฟันฝ่า
เรากรรมกรและชาวนา สู้ นักศึกษามาร่วมประสาน
อุปสรรคใดๆไม่เคยหวั่น เราสร้างสรรค์เพื่อวันเสรี”
ขณะที่ปัจจุบันเพลงอย่าง ‘กูเป็นนักศึกษา’ ของ พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ก็เป็นเพลงที่ถือว่าได้รับความนิยมมาก ซึ่งเป็นเพลงที่ตั้งคำถามกับสถานะบทบาทของนักศึกษา เช่นเดียวกับเพลง ม.ให้อะไร ของ พงษ์สิทธิ์