Skip to main content
sharethis

คสช.หน้าแหก ทนายความเตรียมฟ้องกลับ เหตุโอละพ่อ ทนายเผย ผู้ต้องหาคดีป่วนและลอบสังหารบุคคลสำคัญถูกขังอยู่ในเรือนจำตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน ระบุเป็นไปไม่ได้ที่จะมีส่วนเกี่ยวพันกับข้อกล่าวหาในคดีร้ายแรง ทนายความได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนของผู้เสียหายเพื่อเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการผิดพลาดจนก่อให้เกิดความเสียหายพรุ่งนี้

จากข่าวที่ไทยรัฐออนไลน์ ซึ่งระบุว่า นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม อายุ 49 ปี ถูกออกหมายจับจากศาลทหารกรุงเทพ ในข้อหาโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า นายธนกฤตกับพวกรวม 9 คน ได้ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี  รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ยังได้ระบุต่อสื่อมวลชนว่า  กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังได้เตรียมการก่อเหตุวินาศกรรมในพื้นที่ กทม.และเตรียมประทุษร้ายบุคคลสำคัญในรัฐบาล  ซึ่งต่อมาทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 682/2558 ลงวันที่  25 พ.ย.58 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้า, พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.กมค. เป็นรองหัวหน้า กับพวก   ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลร่วมกระทำความผิด และอยู่ระหว่างการจับกุมตัวมาดำเนินคดีนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวประชาไทสอบถาม เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความ ซึ่งระบุว่า จากการที่เจ้าพนักงานเจ้าของคดีใด้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่าอยู่ระหว่างการหลบหนีนั้น ปัจจุบันทางคณะทนายความพบว่า นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม ได้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดขอนแก่น โดยที่นายธนกฤต ได้ตกเป็นผู้ต้องหาถูกจับกุมในเดือนพฤษภาคม 2557 จากกรณีขอนแก่นโมเดล และต่อมาได้รับการประกันตัว

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น นายธนกฤต ได้ถูกอายัดตัวและกักขังต่อในคดีปลอมแปลงเอกสารเพื่อขายรถยนต์ของอดีตภรรยา จึงถูกอดีตภรรยาเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี  ธนกฤตถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โดยสรุปนายธนกฤตถูกขังต่อเนื่องมาจากเดือนพฤษภาคม 2557 จนกระทั่งปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีส่วนเกี่ยวพันกับข้อกล่าวหาในคดีร้ายแรง  นางเบญจรัตน์ได้ส่งทีมทนายความเข้าพบและได้รับการแต่งตั้งจากผู้เสียหายเพื่อแจ้งความดำเนินคดี โดยจะแจ้งความเอาผิดต่อพนักงานเจ้าของคดี ผู้กล่าวโทษอันเป็นเหตุให้นายธนกฤตต้องตกเป็นผู้เสียหาย ที่กองปราบฯ ในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2558 เวลา 10.00 น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net