แม่จ่านิวเผยทหารโทรให้ไปคุยกับนายบ่ายนี้ พร้อมเตือนหลังจากนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะมาว่าเราไม่ได้ ระบุพยายามช่วยแต่นิวปฏิเสธการพบเจอเอง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเตือนทหารกำลังจะทำผิดกฎหมาย

จากกรณีที่วานนี้(5 ธ.ค.58) สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ถูกเจ้าหน้าที่ทหารเรียกตัวไปคุยหลังโพสต์เชิญชวนคนเข้าร่วมกิจกรรม ‘นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง’ อย่างไรก็ตาม สิรวิชญ์ ได้ปฏิเสธการเข้าพบเจ้าหน้าที่ทหาร ส่งผลให้เจ้าหน้าที่มีการโทรมายังมารดาของสิรวิชญ์ (อ่านรายละเอียด)

แม่จ่านิวเผยทหารโทรให้ไปคุยกับนาย เตือนหลังจากนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะมาว่าเราไม่ได้

ล่าสุด เพจ ‘Fahroong Srikhao ฟ้ารุ่ง ศรีขาว’ รายงานด้วยว่า วันนี้(6 ธ.ค.58) เวลาประมาณ 7.24 น. ทหารได้โทรมาสอบถามอีกครั้งว่าจะไปตามหานิว สิรวิชญ์ที่ไหน และเตรียมจะเชิญ พัฒน์นรี ชาญกิจ มารดาของสิรวิชญ์ ไปค่ายทหารบ่ายนี้

โดยพัฒน์นรี ระบุว่า ได้แจ้งทหารไปแล้วว่า ส่วนตัวมีเรื่องที่ต้องจัดการมากมาย เช่น ที่บ้านหลังคารั่วและรถก็ยางแตก ช่วงเช้าจึงอยากใช้เวลาจัดการปัญหาที่บ้านก่อน

มารดาของสิรวิชญ์เล่าว่าทหารยังพูดด้วยว่า เห็นข้อความโพสต์โจมตีทหารในโซเชียลมีเดียเมื่อคืนนี้ ทำไมจึงมีการโจมตีทหารทั้งที่ "คุยกันดีๆ" ซึ่งตอนแรกตนฟังแล้วนึกว่าบุตรชายโพสต์โจมตีทหารกลางดึก แต่เมื่อตนเช็คดูที่หน้าวอลเฟซบุ๊กของสิรวิชญ์ ก็ไม่ได้พบว่ามีการโพสต์อะไรในช่วงดึกอีก เห็นเพียงโพสต์ล่าสุดที่ระบุว่ายังไม่โดนจับ

คลิปเสียงพลเมืองโต้กลับสัมภาษณ์มารดาของสิรวิชญ์

“เมื่อคืนที่คุณแม่โทรไปว่าทหารจะมาที่บ้าน เขาก็มาคุยอยู่ประมาณ 15 นาที เขาก็บอกพยายามติดต่อลูกให้ได้นะ แล้วถ้าหลังจากนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะมาว่าเราไม่ได้นะเพราะช่วงนี้เราพยายามช่วยเขา แต่นิวปฏิเสธการพบเจอเองนะ เราก็บอกว่าเราก็จนใจเพราะว่าเราติดต่อลูกไม่ได้เหมือนกัน” มารดาของสิรวิชญ์ กล่าว

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนต่อการคุกคามสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์และครอบครัว

ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ออกแถลงการณ์ต่อการคุกคามสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์และครอบครัว โดยระบุว่า ตามที่สิรวิชญ์ ประกาศจะเดินทางไปจัดกิจกรรมที่อุทยานราชภักดิ์ในวันที่ 7 ธ.ค. 2558 ทำให้ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2558 เจ้าหน้าที่ทหารได้ติดต่อไปยังสิรวิชญ์ให้ยกเลิกกิจกรรมและขอให้เข้าไปพบ แต่สิรวิชญ์ไม่ได้เข้าพบและขาดการติดต่อไป เจ้าหน้าที่ทหารจึงเดินทางไปพบมารดาสิรวิชญ์ที่บ้านพักขอให้มารดาห้ามสิรวิชญ์จัดกิจกรรมพร้อมทั้งกล่าวในทำนองข่มขู่ว่า หลังจากนี้หากมีอะไรเกิดขึ้น จะมาว่าพวกเขาไม่ได้ ล่าสุดเช้าวันที่ 6 ธ.ค. 2558 เจ้าหน้าที่ทหารได้ติดต่อมารดาของสิรวิชญ์ให้ไปพบยังค่ายทหารในช่วงบ่ายของวันนี้

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เห็นว่าพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนและเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบฉบับที่ 3/2558 ได้ให้อำนาจเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยเรียกให้บุคคลใดมารายงานตัว หรือมาให้ถ้อยคําในเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน และความผิดอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคําสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเท่านั้น

ดังนั้นหากมีการควบคุมตัวมารดาสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ เนื่องจากต้องการยับยั้งไม่ให้สิรวิชญ์การเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ซึ่งไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดใดๆ ใน 4 ประเภทดังกล่าวข้างต้นนั้น ย่อมเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ฐานอำนาจตามกฎหมายรองรับการกระทำดังกล่าว นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวยังเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาตรา 309 และมาตรา 310 ความผิดต่อเสรีภาพ และเป็นการควบคุมตัวบุคคลโดยอำเภอใจอันขัดต่อข้อ 9 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งบุคคลใดเพื่อประโยชน์ผู้ถูกคุมขังสามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยตัวเนื่องจากการควบคุมตัวไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 90 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทหารยุติการคุกคามประชาชน โดยการอ้างอำนาจตามคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/58 ซึ่งออกตามความมาตรา 44 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว)พ.ศ.2557 อย่างไม่มีขอบเขตในทันที