คุยกับ ‘โตโต้’ เรื่องอาการ ‘ธเนตร’ ฉากสุดท้ายก่อนหายตัว และพ่อที่ออกตามหา

ธเนตร อนันตวงษ์ หรือตูน อายุ 25 ปี เป็นนักกิจกรรมที่ไม่เป็นที่รู้จัก เขามีฐานะยากจนและไม่ปรากฏอาชีพแน่ชัด แต่ก็ปรากฏตัวร่วมกิจกรรมกับบรรดานักศึกษาโดยตลอด ล่าสุด เขาถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจากโรงพยาบาลขณะทำการรักษาอาการลำไส้อักเสบเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 5 วันแล้ว โดยที่ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหน และอาการเป็นอย่างไร

สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ร่วมกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยื่นคำร้องต่อศาลอาญา 2 ครั้งยืนยันว่าการควบคุมตัวตามหมายจับตามที่ตำรวจมีการแถลงข่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย วันนี้พ่อของธเนตร จ่านิว และปิยะรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ นักศึกษาอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่เห็นธเนตรในนาทีสุดท้ายก่อนถูกควบคุมตัวไป เดินทางมาฟังคำสั่งศาลในวันนี้ และศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง (อ่านที่นี่)

ล่าสุด พ่อของธเนตรเตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเมตตายัง พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 เพื่อให้นำลูกชายออกมารักษาตัวก่อนดำเนินคดี เนื่องจากลูกชายน่าจะมีความเจ็บป่วยที่รุนแรง

ทั้งนี้ ในวันที่เขาถูกควบคุมตัว ทนายความจากศูนย์ทนายฯ ได้เดินทางมายังโรงพยาบาลที่ธเนตรรักษาตัวและขอยาที่ใช้รักษาอยู่นำไปให้ธเนตรโดยฝากไว้ที่ มทบ.11 ยาดังกล่าวได้แก่ Clindamycin,Ciproflaxacin, Ibuprofen

ประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโส ของข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ ระบุว่า เขาได้สัมภาษณ์ผอ.โรงพยาบาลที่ธเนตรรักษาตัว และผอ.ได้แจ้งว่า ทหาร ตำรวจ ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเลยเรื่องสภาพของธเนตร รวมถึงการรักษาอาการของเขาในระหว่างการควบคุมตัว พร้อมแนะนำว่าทางเจ้าหน้าที่ควรมีแพทย์ดูแลในกรณีนี้  (อ่านที่นี่)

ส่วนสนอง อนันตวงษ์ วัย 55 ปี พ่อของธเนตรเป็นชาวอุทัยธานีไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่รุมสัมภาษณ์เขาที่ศาลมากนัก แต่ช่างภาพสนามรายหนึ่งได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาก่อนเข้าฟังคำสั่งศาลและบันทึกการพูดคุยไว้ที่เพจ Banrasdr Photo ระบุว่า

“ตูนเป็นลูกคนเดียว แม่ตูนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว ปกติตูนเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง กลับมาเยี่ยมพ่อบ้าง ล่าสุดเพิ่งมาเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว กลับมาก็พูดคุยทั่วไปไม่เคยเล่าให้ฟังถึงเรืองการเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมทางการเมือง

ตนทราบเรืองครั้งแรกจากที่เห็นรูปในข่าวตอนนั่งรถไฟจากหนังสือพิมพ์ ตอนนั้นคิดว่าไม่มีอะไรเพราะเห็นว่าปล่อยตัวแล้ว จนมาเมื่อสองวันก่อนจึงรู้ว่าลูกถูกจับกุมตัวจากโรงพยาบาล รู้สึกตกใจและเป็นห่วงลูกมาก

จึงตัดสินใจขออาศัยรถคนรู้จักเดินทางเข้ามากรุงเทพ เพื่อตามหาและจะเยี่ยมลูกแต่ไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน ตนเองก็ไม่ค่อยมีเงินอีกทั้งป่วยมีโรคประจำตัว จนกระทั่งเพื่อนๆ ของตูนที่ทราบว่าตนเดินทางเข้ากรุงเทพตามหาจนพบ และพามาฟังคำสั่งศาลในวันนี้ด้วย”

ประชาไทสัมภาษณ์โตโต้ อายุ 25 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ภาคบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ซ้าย ปิยะรัฐ หรือโตโต้ ; ขวา บิดาของธเนตร
 

ประชาไท : พรุ่งนี้จะไปยื่นหนังสือ ที่ มทบ. 11 กับพ่อธเนตรใช่หรือไม่ เนื้อหาข้อเรียกร้องจะเป็นอย่างไรบ้าง

โตโต้ : เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะผู้มีอำนาจในรัฐบาลช่วยมีความเมตตาและมีมนุษยธรรมในการปล่อยตัวมาทำการรักษาตามขั้นตอนของแพทย์ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดี

ธเนตรป่วยเป็นอะไร

ให้รายละเอียดได้ แต่คงไม่ใช่ศัพท์ทางการแพทย์ จากการสอบถามเจ้าตัวและพยาบาลในวันที่ไปเยี่ยมเขาก่อนถูกจับ เขาป่วยเป็นลำไส้อักเสบค่อนข้างรุนแรง และมีส่วนของไส้เลื่อนที่บริเวณอัณฑะลงไป ที่ต้องผ่าตัดคือไส้เลื่อนนี้แหละ เราสอบถามพยาบาลว่าทำไมต้องมีการฉีดยา พยาบาลก็แจ้งว่าเพราะลำไส้ของธเนตรติดเชื้อค่อนข้างรุนแรงต้องให้ยาฉีดเป็นเวลา และต่อเนื่อง

ได้คุยกับคุณพ่อของธเนตรไหม

ได้คุยกันบ้าง เพราะเจอที่ศาล

แบ็คกราวน์ของครองครัวธเนตรเป็นอย่างไร

คุณพ่ออายุ 55 ปีพื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ แต่ต้นตระกูลอยู่อุทัยธานี พ่อและธเนตรย้ายไปอยู่อุทัยธานีนานแล้วจนธเนตรลงมาอยู่กรุงเทพฯ เองเมื่ออายุ 21 ปี ส่วนอาชีพของคุณพ่อก็คืองานก่อสร้าง พูดตรงๆ ว่าเป็นกรรมกร แต่ทุกวันนี้ไม่ได้มีอาชีพอะไร ทำอะไรไม่ได้แล้ว มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ทั้งความดัน เบาหวาน และโรคปอด พ่อเป็นญาติคนเดียว แม่เขาเสียตั้งแต่ยังเด็ก

โตโต้มีความเกี่ยวพันกับตูนอย่างไร และตั้งแต่เมื่อไร

ไม่มี ถ้าเปรียบเทียบกับเพื่อนทุกคน ผมถือว่าอยู่ห่างจากธเนตรที่สุดเลย หนึ่ง ผมแทบจะไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับ NDM และจ่านิวเหมือนที่ธเนตรทำตลอดหลายครั้งที่ผ่านมา แต่บังเอิญไปเยี่ยมในวันที่ถูกจับกุมพอดี ผมเป็นคนที่ตามคดีของคนที่ถูกกระทำอย่างนี้อยู่แล้ว หลายๆ เคสที่เกิดผมพยายามเข้าไปดูแลสวัสดิการ สวัสดิภาพของเขา คล้ายช่วยทนายไปอีกแบบหนึ่ง

ตกลงมีการจับกุมที่ตรงไหนของโรงพยาบาลกันแน่

ยืนยันว่าตัวเขาถูกจับกุมที่บริเวณชั้น 7 น่าจะเป็นเคาน์เตอร์ของพยาบาลซึ่งอยู่ในวอร์ดของศัลยกรรมชาย ในห้องพักผู้ป่วยรวมจะมีเคาน์เตอร์พยาบาลอยู่ตรงกลาง ผมคิดว่าน่าจะเป็นตรงนั้น เพราะขณะที่ผมขึ้นไปจากชั้นล่าง เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 2 นายนำตัวธเนตรจะพาลงลิฟท์พอดี เขากำลังเข้าลิฟท์ผมกำลังออกจากลิฟท์ เป็นเจ้าหน้าที่ 2 นายที่เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบก่อนที่จะทำการจับกุมด้วย

โตโต้เขียนว่าที่ไปเยี่ยมธเนตรเพื่อไปบอกเขาว่ามีหมายจับ ทราบได้อย่างไร

ทราบจากการที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ไปยื่นกองปราบขอออกหมายจับ ข่าวออกวันที่ 12 ธ.ค. ก็จะไปถามเขา จริงๆ คิดว่าอาจไม่เจอเขาด้วยซ้ำ เพราะมีกรณีของฐนกรที่หายไปเลย ยังไม่มีหมายเลยด้วยซ้ำ หมายออกทีหลัง ก็ลองไปดู แต่พอไปแล้วได้เจอตัวเขาในสภาพอาการป่วย แล้วก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ ไม่มีอะไรเลย เรามองแล้วมันผิดปกติแน่ๆ เราก็เลยพยายามสอบถามทางโรงพยาบาลว่าทราบไหมว่ามีผู้ต้องหามารักษาตัวอยู่ ทางโรงพยาบาลก็บอกว่าไม่มีนะ แต่เราเห็นแล้วว่ามีคน 2 คนมานั่งเฝ้าอยู่ข้างหน้า คาดว่าเป็นนอกเครื่องแบบและธเนตรเองก็บอกกับผมว่า เมื่อวานมีชายฉกรรจ์หลายคนมาถ่ายรูปเขา ถามชื่อแล้วก็ออกไป

เขารักษาตัวคนเดียว ไม่มีญาติ

แม้แต่ตอนที่เขาป่วยหนัก ก็อาศัยคนอื่นเรียกรถพวกร่วมกตัญญูมารับเขาไปส่งโรงพยาบาลปิยะมินทร์ ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.ก่อนจะย้ายมาที่รพ.สิรินธร

ทางการให้ข้อมูลว่ามีการไปจ่ายเงิน ข้อเท็จจริงจะมีการออกจากโรงพยาบาลหรืออย่างไร

ด้วยความเข้าใจของเรา ตอนคุยกับเขาก็ไม่ได้ท่าทีว่าเขาจะขอออก เราก็คิดว่าแพทย์คงไม่อนุญาตให้ออกไป แต่เขาแจ้งเพียงว่าอยากไปมอบตัว อยากพบทนาย ผมเลยบอกว่าก็ลองปรึกษาแพทย์ดูว่าจะขอพักรักษาตัวชั่วคราวไปพบทนายและจัดการเรื่องคดีได้ไหม แต่ขั้นตอนที่ให้ไปจ่ายเงินคือ เราไม่ได้บอกเราว่าเขาจะออก แต่เขาบอกเพียงให้ไปช่วยชำระเงินหน่อย เราคิดว่าเป็นการชำระเบื้องต้นระหว่างการรักษา เพราะเขาเพิ่งย้ายมาจากปิยะมินทร์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็คงจะมีค่ารักษามาอยู่จำนวนหนึ่ง เขาไม่มีเงิน เพื่อนก็ไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ชำระเงินชั้นล่าง ตอนนั้นเองที่คราดกัน พอเพื่อนลงมาชั้นล่าง ธเนตรก็โทรบอกว่าถูกจับแล้ว ผมและเพื่อนก็วิ่งขึ้นลิฟต์ไป การจับเจ้าหน้าที่คงคิดว่าธเนตรชำระเงินเรียบร้อยแล้วเลยจับเลย แต่จริงๆ ยังเหลือขั้นตอนของการสั่งยาอีก ยังไม่ได้ยา ทนายเลยพยายามเอายาไปฝากไว้ที่มทบ.11 ตามที่เป็นข่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท