เยาวชนไทยพุทธถูกฟ้องคดีความมั่นคงข้อหาก่อการร้ายในชายแดนใต้ เหตุตรวจพบ DNA บนหลักฐานในเหตุการณ์ปะทะบนเทือกเขาตะเว เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2557 ศาลเยาวชนนราธิวาสนัดสืบพยาน 3 วันรวด ฝ่ายจำเลยชี้วัตถุพยานมีพิรุธและการตรวจ DNA ไม่สมบูรณ์

วันที่ 16-18 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนราธิวาสนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ คดีหมายเลขดำที่ 143/2558 ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค9 เป็นโจทก์ฟ้องเยาวชนไทยพุทธคนหนึ่ง นามสมมุติว่า นายย.ในข้อหา “สมคบกันก่อการร้าย ร่วมกันก่อการร้ายโดยการสะสมกำลังพลอาวุธอั้งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”

สาเหตุที่ฟ้องเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 มีเหตุคนร้ายก่อเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่บนเทือกเขาตะเว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จากการปะทะดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ทหารสามารถตรวจเก็บของใช้และอุปกรณ์ต่างๆ ในที่เกิดเหตุได้ 767 รายการ โดยมี 2 รายการที่ตรวจยึดคือ ผ้าขาวม้าสีแดง น้ำเงินขาว และกางเกงลายพรางสีเขียว ส่งตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จากการตรวจหาสารพันธุกรรม DNA ปรากฏว่าของกลางสองรายการดังกล่าวตรงกับ DNA ของนาย ย.เจ้าหน้าทีจึงขับกุมดำเนินคดี

คดีนี้ทางมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมและมูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่าในการสืบพยานโจทก์ในวันที่ 16 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการได้นำพยานเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดปฏิบัติการในวันเกิดเหตุ เข้าสืบ 4 ปาก โดยมีการกล่าวอ้างถึงขบวนการต่างๆ ว่าก่อความไม่สงบเพื่อต้องการแบ่งแยกดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยการก่อความความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และสี่อำเภอของจังหวัดสงขลาเริ่มรุนแรงหนักขึ้นในเหตุการณ์ปล้นอาวุธปืนของกองพันทหารพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ค่ายปิเหล็ง) อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี 2547 และก่อเหตุต่อเนื่องเรื่อยมา รวมทั้งเหตุการณ์คดีนี้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าปฏิบัติการตามยุทธการพิทักษ์เทือกเขาตะเวแล้วเกิดการยิงปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบซึ่งหลบหนีไปได้

ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดอุปกรณ์สำหรับเตรียมก่อความไม่สงบและเครื่องอุปโภคบริโภคในได้กว่า 600 รายการ อันเป็นเหตุนำมาซึ่งการตรวจพิสูจน์สารพันธ์กรรม (DNA) จากวัตถุพยานบางรายการที่อ้างว่าตรงกับ DNA ของ นาย ย. จำเลยในคดีนี้

ส่วนในวันที่ 17 ธันวาคม2558 โจทก์ได้นำพยานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าสืบจำนวน 3 ปากซึ่งฝ่ายจำเลยได้ถามค้านถึงความมีพิรุธในการได้มาซึ่งวัตถุพยานและความไม่สมบูรณ์ของการตรวจพิสูจน์ DNA เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของจำเลย

ส่วนวันที่ 18 ธันวาคม 2558 เดิมกำหนดสืบพยานโจทก์แต่ศาลมีคำสั่งให้เลื่อนไปสืบทั้งพยานโจทก์ 3 ปากและพยานจำเลย 2 ปาก ให้เสร็จสิ้นในวันเดียวกัน คือวันที่ 24 ธันวาคม 2558

ทั้งนี้ คดีนี้เป็นคดีความมั่นคงคดีแรกที่คนพุทธถูกข้อหาก่อการร้าย