Skip to main content
sharethis

ศาลทหารอนุญาตฝากขังผู้ต้องหาปลอมเฟซบุ๊กอดีตเพื่อนคนสนิทโพสต์หมิ่น ผิด ม.112 เจ้าตัวให้การปฏิเสธไม่ใช่คนกระทำผิด พนักงานสอบสวนระบุกระทำผิด 12 กรรม

24 ธ.ค.2558 จากรณีที่ เดลินิวส์ รายงานว่า เมื่อวัรที่ 23 ธ.ค.58 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 พร้อมพวกควบคุมตัว วิชัย อายุ 33 ปี ชาวเชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ที่ 65/2558 ลงวันที่ 15 ธ.ค. ในข้อหา “หมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรและหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา” พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง นำตัวส่งพนักงานสอบสวนบก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีต่อไป

เดลินิวส์ รายงานต่อว่ากรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายว่า มีผู้แอบอ้างนำชื่อของตนเองไปเปิดเฟซบุ๊กปลอม และโพสต์ข้อความหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งเกรงว่าจะได้รับผลกระทบ แล้วถูกจับกุมเอาผิดตามกฎหมาย จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ว่า ไม่ได้เป็นผู้โพสต์ หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวน กระทั่งพบเบาะแสว่า ผู้ที่สร้างเพจปลอมคือ วิชัย ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนคนสนิทของผู้เสียหาย และมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ ด้วยความโกรธแค้น จึงเอาชื่อและข้อมูลของผู้เสียหาย ไปเปิดเฟซบุ๊ก แล้วโพสต์ข้อความต่างๆ ซึ่งเข้าข่ายความผิดข้อหาหมิ่นประมาทเบื้องสูงเพื่อกลั่นแกล้งผู้เสียหาย

วันนี้ (24 ธ.ค.58) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นำตัว วิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี  จาก สน.ทุ่งสองห้อง มาขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังครั้งที่ 1 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.58 – 4 ม.ค. 59 หลังจากได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในความผิดตาม ม.112, 326, 328 (หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา) และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1), (3), (5) ตามหมายจับศาลทหาร จากกรณีที่มีผู้เข้าแจ้งความว่า ถูกนำชื่อไปเปิดเฟซบุ๊กปลอม และโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันฯ

โดยในคำร้องขอฝากขัง พนักงานสอบสวนได้ระบุว่า ผู้เสียหายได้แจ้งความว่า มีการใช้เฟซบุ๊คปลอมดังกล่าว กระทำความผิดโดยการโพสต์และแชร์คลิปวีดิโอ ภาพ และข้อความที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง และจากการตรวจพิสูจน์คอมพวเตอร์โน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้จากผู้ต้องหา พบว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเฟซบุ๊คปลอมดังกล่าว

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนให้เหตุผลในการขอฝากขังว่า ต้องทำการสอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องรวม 5 ปาก รวมทั้งรอผลการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ และผลการตรวจสอบประวัติลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาได้คัดค้านการฝากขัง เนื่องจากตนเองไม่ใช่ผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตาม ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ

ในการฝากขังครั้งนี้ ผู้ต้องหาไม่ได้ขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากยังไม่มีหลักทรัพย์

ศูนย์ทนายฯ ระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 5 ได้ร่วมกับตำรวจ บก.ปอท. เข้าจับกุม วิชัย ที่บริเวณลานจอดรถของหอพักแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ พร้อมของกลางคือ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนจำนวน 3 เครื่อง หลังจาก ควบคุมตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาและทำบันทึกการจับกุมที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 5 โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวิชัยมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนที่ บก.ปอท. เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. เวลา 14.30 น. ก่อนนำตัวไปขังไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนเช่นกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net