Skip to main content
sharethis

30 ธ.ค. 2558 ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 14.00 น. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้แถลงผลการตรวจสอบการทุจริตโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีอำนาจเพียงแค่ตรวจสอบงบประมาณ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบการใช้งบประมาณ ขณะนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กำลังตรวจสอบอยู่       

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ มีอำนาจเพียงแค่ตรวจสอบงบประมาณเท่านั้น ในส่วนของบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งโรงหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ ไม่มีอำนาจตรวจสอบเหมือน สตง. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยจะได้ส่งข้อสังเกตไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกองทัพบก

พล.อ.ชัยชาญ แถลงด้วยว่า คณะกรรมการฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย เป็นเพียงคณะกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นโดย พล.อ.ประวิตร เพื่อการรวบรวมข้อเท็จจริง โดยมีผู้มาชี้แจงจำนวน 23 คน มีเอกสารหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะหลักฐานบัญชีทางการเงินจำนวนมาก เป็นหลักฐานทางการรับจ่าย ถึงวันที่ 30 พ.ย.2558 เพื่อสรุปสำนวนข้อเท็จจริง โดยสรุปรายรับ-รายจ่ายโครงการอุทยานราชภักดิ์ มีรายรับเป็นงบกลางและงบบริจาค 866 ล้านบาท รายจ่าย 816 ล้านบาท ส่วนงบบริจาคเข้ามูลนิธิราชภักดิ์ ที่ภาครัฐและเอกชน ประชาชน บริจาคจำนวน 106 ล้านบาทเศษ ปัจจุบันยังไมมีการใช้งบนีทั้งนี้ด้านงบประมาณคณะกรรมการฯเห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และระเบียบคำสั่งของกองทัพบกที่เกี่ยวข้อง สำหรับการใช้จ่ายงบบริจาค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบติตามระเบียบคณะกรรมการสวัสดิการกองทัพบกว่าด้วยอุทยานราชภักดิ์ พ.ศ.2558 และระเบียบคณะกรรมการบริหารอุทยานราชภักดิ์ว่าด้วยการสั่งซื้อสั่งจ้าง พ.ศ.2558
 
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ เราได้ทำข้อสังเกตไปว่ากรณีการเรียกบุคคลมาสอบถามนั้น ไม่ครบถ้วน บางคนไม่มา บางคนตามตัวไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ถือว่าอยู่นอกเหนืออำนาจของคณะกรรมการฯ สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ราชภักดิ์ไบค์แอนคอนเสิร์ตแทนคุณแผ่นดิน หรือกิจกรรมปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ที่มีข่าวว่าใช้ต้นปาล์ม 72 ต้น ต้นละ 3 แสนบาทนั้น ในข้อเท็จจริงสอบแล้วไม่ใช่การใช้ต้นไม้มาปลูกในอุทยาน แต่เป็นลักษณะให้ภาคเอกชนสนับสนุน คือถ้าใครมาบริจาคก็จะมีชื่อติดตามต้นไม้ ซึ่งคณะกรรมการฯเห็นว่าทั้ง 2 กิจกรรมดังกล่าวได้ดำเนินการตามแผนงาน มีการเปิดเผยบัญชีรายรับรายจ่ายชัดเจน ส่วนนี้ไม่มีข้อสังเกตใด ๆ 
 
ต่อกรณีคำถามว่าการพิจารณาไม่ได้พิจารณาตัวบุคคลอย่าง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า การตรวจสอบของคณะกรรมการฯไม่ใช่การชี้มูลความผิด หรือบอกใครถูกใครผิด ซึ่งจะเป็นเพียงการให้ข้อสังเกตเท่านั้น ส่วนจะหาว่ามีประเด็นอะไรทุจริต ต้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการ ถ้าหาก สตง.อยากได้ข้อมูล เราก็พร้อมที่จะให้
 
นายเรืองไกร  ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าร่วมรับฟังด้วย กล่าวภายหลังรับฟังการแถลงว่า ส่วนตัวรู้สึกพอใจในเรื่องการชี้แจงข้อมูล ทั้งการใช้งบกลางบบริจาคและงบมูลนิธิ ซึ่งจะชัดเจนกว่าที่ผ่านมามาก ทำให้สังคมหายสงสัยได้ระดับหนึ่ง เนื่องจากตนเข้าใจดีว่าการสอบของคณะกรรมการฯไม่สามารถชี้มูลความผิดเหมือน ป.ป.ช. หรือ สตง. เพราะเป็นเพียงการแสวงหาข้อเท็จจริง ส่วนตนจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรนั้น ขอเอกสารหลักฐานจากคณะกรรมการฯก่อน
 
 
'อุดมเดช' ซัดสื่อ ต้องมีคนชดใช้ เหตุทำความเสียหายต่อชื่อเสียงอุทยานราชภักดิ์ 
 
ไทยรัฐฉบับพิมพ์ รายงานว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนี้ก่อนมีการแถลงผลสอบว่า ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ร่วมบริจาคเงินไม่ว่าจำนวนเท่าใด ผู้ที่บริจาคเหล่านี้ไม่เคยเอ่ยสักครั้งว่าโครงการนี้มีอะไรเกิดขึ้น เชื่อว่าคนเหล่านี้มั่นใจว่ากองทัพบกทำด้วยความตั้งใจ เราสุขใจที่จะทำและภูมิใจในสิ่งที่เกิดขึ้นมานี้ด้วย แม้โครงการจะไม่เสร็จสมบูรณ์ ก็ต้องทำให้สมบูรณ์ต่อไป เพราะคนเหล่านี้เขารอคอย เมื่ออุทยานราชภักดิ์สมบูรณ์แล้วจะเป็นอย่างไร อยากให้สื่อลงในแง่มุมที่ดีได้แล้ว เลิกไปลงในทางที่เสียหาย เพราะมันไม่มีอะไรเสียหาย บางคนที่ไม่ปรารถนาดี อาจขุดหลุมพรางอะไรไว้ เราควรขึ้นจากหลุมพรางเหล่านั้นได้แล้ว
 
“ใครก็ตามที่ทำและพยายามกลบเกลื่อนเรื่องต่างๆที่มันไม่ดีไม่งาม โดยเอาเรื่องนี้มากลบเกลื่อน ถือว่าไม่เหมาะสม บาปกรรมมาก อุทยานราชภักดิ์เป็นสิ่งที่ต้องเคารพ เห็นบางสื่อซึ่งผมให้ลูกน้องบันทึกไว้ คิดว่าอีกระยะหนึ่ง คงต้องมีคนต้องชดใช้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ที่เขาได้ทำความเสียหายต่อชื่อเสียงของอุทยานราชภักดิ์ สื่อบางสื่อ พอเปิดหนังสือพิมพ์ดูก็ไปเขียนภาพองค์พระบูรพกษัตริย์ รู้หรือไม่ ขณะนี้คุณกำลังไม่เคารพอะไร พวกเราที่เป็นทหาร เป็นข้าราชการ เห็นภาพสิ่งที่เคารพรักไม่ว่าที่ใดก็ตาม เรายกมือไหว้ พวกเราถูกสั่งสอน แม้กระทั่งภาพสิ่งที่เราเคารพรักที่ถูกนำเสนอผ่านทางโทรทัศน์ ถ้าเห็นสิ่งที่เราเคารพรักสูงสุดเราจะยกมือไหว้โทรทัศน์ด้วยซ้ำ ผมพูดจากใจจริง เพราะทำมาตลอด แต่คนที่เอามาเขียนข่าวเล่น เขียนภาพเล่นๆ รู้หรือไม่คุณกำลังถูกกฎหมายข้อใด ขอให้ระมัดระวัง เพราะผมเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ แล้ววันหนึ่งคิดว่าจะเอามาดูอีกครั้งหนึ่ง” พล.อ.อุดมเดช กล่าว 
 
พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าสิ่งที่ไม่มีอะไรมันคงไม่มีอะไร มันไม่ทุจริตก็อยากให้ทุจริต เห็นบางคนเป็นตัวหลักที่จะเอ่ยหยอดถามประเด็นนั้นประเด็นนี้ คิดว่าหลายคนถ้าได้เห็นชื่อแล้ว ไม่มีคุณค่าทางสังคม ไม่มีคุณค่าต่อประเทศชาติอย่างไร เคยบริจาคสิ่งดีๆเหล่านี้แม้สักบาทเดียวหรือไม่ แล้วเที่ยวมากล่าวหากล่าวร้ายกัน คนที่เขามั่นใจเขาไม่เคยพูดสักคำ เมื่อถามว่า ยังยืนยันจะทำหน้าที่ในตำแหน่ง รมช.กลาโหมต่อไปหรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ขอไม่พูดถึง อย่าถามในสิ่งที่คิดว่าเขาคงไม่ให้คำตอบ เมื่อมีภาระหน้าที่เราต้องทำไป เป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาความเหมาะความควรหลายอย่างประกอบกัน ทุกคนที่เข้ามาทำงานคิดว่าพวกเราไม่ใช่นักการเมือง แต่เรามาทำหน้าที่การเมืองให้ในระยะหนึ่ง ในสถานการณ์จำเป็น ต้องพยายามทำกันต่อไปให้ดีที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net