Skip to main content
sharethis

ความเคลื่อนไหวต่อเนื่องหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้ อาศัยอำนาจตามม.44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ค. 2557 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ที่ 1/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 3 โดยในจำนวนนั้น  ได้สั้งให้ 7 กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พ้นจากการเป็นกรรมการและการดำรงตำแหน่งในกองทุนดังกล่าว และให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการใหม่ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง (อ่านรายละเอียด) เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งวานนี้(11 ม.ค.59) ขบวนการส่งเสริมสุขภาพภาคประชาชน (Thai Health Movement)  ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องรวม 20 องค์กร ร่วมกันแถลงข่าวหัวข้อ “กรณีการปลดบอร์ดสสส.และชะตากรรมกว่า 2,000 ชีวิต องค์กรภาคประชาชน หลัง สสส.ถูกแช่แข็งร่วม 3 เดือน รวมถึงยังถูกกรมสรรพากรไล่บี้ภาษีหนัก โดยระบุว่าคำสั่งดังกล่าว ชี้ไม่ชอบธรรม เนื่องจากไม่พบทุจริต โดย 15 ม.ค. นี้ ขบวนการฯ จะติดตามผลการประชุมของบอร์ด เกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้จัดการสสส.คนใหม่ เห็นว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นกับสสส. จะเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ทั่วประเทศ พร้อมทั้งระบุด้วยว่าหากโครงการยังถูกแช่แข็งจะมีการฟ้องศาลปกครอง (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

ล่าสุดวันนี้ (12 ม.ค. 59)  พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)ให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าวไทย  ถึงกรณีดังกล่าว ว่า ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวตามหลักการทุกอย่าง  คำสั่งพักงานของข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต 2 ชุดก่อนหน้านี้ ก็ได้ยึดตามหลักการเดียวกัน

ส่วนกรณีของ นพ.วิชัย โชควิวัฒน กรรมการของ สสส. ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า  ควรจะเข้ามาพูดคุยกับคณะกรรมการตรวจสอบ ไม่ใช่การออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ  ยืนยันว่าคณะกรรมการพร้อมจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่

“ผู้ที่มีรายชื่อรายใดเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถยื่นขอความเป็นธรรมได้ตามช่องทาง  ผมจะไม่ไปชี้แจงในเวทีข้างนอก เพราะการชี้แจงต้องประกอบไปด้วยองค์คณะทั้งหมด”  พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว พร้อมย้ำว่า การพิจารณาเป็นไปตามหลักการของกฎหมาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกคน  ไม่มีการให้อภิสิทธิพิเศษต่อองค์กรใดองค์กรหนึ่ง

สำหรับกรณีที่เครือข่ายภาคประชาชนเตรียมออกมาเคลื่อนไหว หากรัฐบาลยกเลิกสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นั้น พล.อ.ไพบูลย์  ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะยุบ สสส. เพราะ สสส. เป็นโครงการที่ดี แต่เรื่องใดที่เห็นว่าต้องปรับปรุงก็ต้องทำ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยให้แนวทางไปแล้ว ขอให้เข้าใจว่า ที่พบปัญหา ไม่ใช่ตัวโครงการ หรือคนที่เสียสละทำงาน แต่เป็นปัญหาในส่วนของการบริหารงบประมาณ ที่ต้องทำให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด และมองว่า คนที่ทำงาน ไม่ว่าจะทำงานมา 5 ปี หรือ 50 ปี ก็จะมีข้อบกพร่องด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้น ทุกคนก็ต้องยอมรับการปรับปรุงนี้ด้วย

“การเคลื่อนไหวของอดีตบอร์ดทั้ง 7 คน อยากให้สื่อและสังคมพิจารณาเองว่า เหตุใดถึงมีปัญหาแค่เฉพาะกลุ่มนี้ ในขณะที่คนอื่นก็ยอมรับคำสั่ง ใครมีปัญหาเรื่องความเป็นธรรม ก็มาชี้แจงให้ถูกต้องตามระบบ ไม่ใช่ไปร้องอยู่ข้างนอก” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว  

สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า นายวิเชียร พงศธร หนึ่งในอดีตบอร์ด สสส.ที่คำสั่ง คสช.มาตรา 44 ให้พ้นตำแหน่ง ออกมายืนยันพร้อมให้ข้อมูลพล.อ.ไพบูลย์ ในเร็ววันนี้ เพื่อชี้แจงปมปัญหากรณีความทับซ้อนในรายชื่อ 2 มูลนิธิที่รับทุนจาก สสส. คือมูลนิธิเพื่อคนไทย และมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม ซึ่งที่ผ่านมาได้ลาออกจากตำแหน่งในมูลนิธิไปแล้ว เหลือเพียงมูลนิธิเพื่อคนไทยเท่านั้น และยอมรับว่าข่าวการปลดออกจากบอร์ด สสส. กระทบต่อชื่อเสียง และภาพลักษณ์ของตนเอง และมีผลกับการร่วมงานกับผู้อื่น พร้อมยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินเรื่องการล้มสสส.ในการประชุมบอร์ดมาก่อนได้ยินจากสื่อ ส่วนการเข้ามาแทรงแซงของบริษัทเหล้า บุหรี่ ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเช่นกัน การกล่าวอ้างทุกอย่างควรมีหลักฐาน เพราะถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และที่ผ่านมายังไม่เคยหารือกับกลุ่มบอร์ดสสส.ที่ถูกปลดมาก่อนด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net