(อ่านประกอบ : 4 องค์กรสื่อตั้งกก.สอบกรณีนักข่าวรับเงินเอแบคฯ4.4 ล.-"เจษฎา อนุจารี" ปธ.)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ขณะนี้ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้ ที่มีนายเจษฎา อนุจารี กรรมการสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นประธาน ได้สรุปผลการสอบสวนเป็นทางการแล้ว และส่งเรื่องให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทั้ง 4 แห่ง รับทราบ และอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมการสอบสวนฯ
โดยผลการสอบสวนในส่วนของ อดีตนักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 (ปัจจุบันอยู่ พีพีทีวี) ปรากฎชื่อเป็นผู้ที่รับเงินค่าตอบแทนมากที่สุด จำนวน 2,150,866 บาท เนื่องจากคำชี้แจงของนักข่าวรายนี้ ขัดแย้งกับข้อมูลในเอกสารหลักฐานที่ปรากฎ และไม่ยอมส่งมอบหลักฐานประกอบการชี้แจงเพิ่มเติม คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่า เงินที่นักข่าวรายนี้ได้รับตอบแทนจากสํานักวิจัยเอแบคโพลล์ไป เป็นค่าตอบแทนที่จ่ายให้กับนักข่าว
ส่วนกรณีนักข่าวรายอื่นนั้น ในส่วนของสถานีไทยพีบีเอส อดีตผู้ประงานโครงการพิเศษ ยอมรับว่าได้รับเงินตอบแทนจากการไปสัมภาษณ์ผู้บริหารของสํานักวิจัยเอแบคโพลล์ เป็นจำนวนหลักพันบาท เช่นเดียวกับผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) ที่ยอมรับว่า ได้เงินช่วยเหลือจัดงานเลี้ยงและแข่งกีฬาสีปีใหม่ 6,000 บาท และเข้าไปรับจ้างทำงานส่วนตัวเกี่ยวกับการนำเสนอข้อมูลในรูปของพรีเซนต์ข้อมูล อีก 16,000 บาท ส่วนขั้นตอนการรับเงินจะมีการโอนเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง ไม่มีการลงชื่อรับเงิน
สำหรับนักข่าวหนังสือพิมพ์ นั้น ในส่วนของหนังสือพิมพ์แนวหน้า และเดลินิวส์ ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับเงินค่าตอบแทน ส่วนข่าวสด และบางกอกทูเดย์ บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับ ไม่ได้มาให้ถ้อยคำแต่อย่างใด ขณะที่เงินค่าตอบแทนที่จ่ายให้กับบริษัท อินโฟเควสท์ จำกัด ได้รับการยืนยันว่า เป็นค่าซื้อบริการข้อมูลข่าวออนไลน์ ไม่เกี่ยวข้องกับค่าตอบแทนนักข่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังมีนักข่าวบางส่วนที่มีการลงบันทึกข้อมูลเป็นชื่อเล่น 'โอ - หนึ่ง' แต่ไม่ปรากฎชื่อ-นามสุกลจริงและต้นสังกัด ทำให้ไม่สามารถสืบค้นข้อมูลได้ว่าเป็นใคร
รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้น คณะกรรมการฯ ได้สรุปผลสอบว่า ในส่วนของอดีตนักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ที่รับเงินค่าตอบแทนมากที่สุด จำนวน 2,150,866 บาท ,นักข่าวสทท. และอดีตผู้ประงานโครงการพิเศษไทยพีบีเอส คณะกรรมการเห็นว่า มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน และจะเสนอให้สภาและสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชนแต่ละองค์กรพิจารณาดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ที่กําหนดไว้ตามธรรมนูญ ข้อบังคับประกาศ และแนวปฏิบัติของสภาและสมาคมวิชาชีพของแต่ละองค์กร
คณะกรรมการฯ ยังเห็นควรเสนอให้สภาและสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชนแต่ละองค์กรพิจารณา ขอความร่วมมือจากสมาชิกในองค์กรของตนช่วยกันค้นหาข้อเท็จจริงในองค์กรสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับตารางค่าใช้จ่ายที่สํานักวิจัยเอแบคโพลล์จ่ายแก่นักข่าว และแถลงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบว่ามีผู้ประกอบวิชาชีพข่าวในองค์กรสมาชิกใดได้รับเงินค่าตอบแทนจากสํานักวิจัยเอแบคโพลล์ดังกล่าวหรือไม่อย่างไร และมีการลงโทษอย่างไรหรือไม่ เพื่อสร้างความโปร่งใสในวงการวิชาชีพสื่อมวลชน
นอกจากนี้ ผู้ประกอบวิชาชีพข่าวบางคนยังคงเห็นว่าการรับเงินค่าตอบแทนจากแหล่งข่าวเพื่อการ นําเสนอข่าว การรับเลี้ยงอาหาร และการขอรับเงินสนับสนุนกิจกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพข่าวเป็นเรื่องปกติ ตลอดจนมีการใช้การประกอบวิชาชีพข่าวไปรับจ้างทํางานเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ให้แก่แหล่งข่าว อันอาจมีลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อนหรือขัดกัน
จึงเห็นควรเสนอให้สภาและสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชนแต่ละองค์กรจัดทําคู่มือหรือแนวทางการปฏิบัติของผู้ประกอบวิชาชีพข่าวในการรับเงินหรือค่าตอบแทนหรือการขอความสนับสนุนกิจกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพข่าว ตลอดจนการใช้สถานะการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพข่าวไปรับจ้างทํางานประชาสัมพันธ์ให้แก่แหล่งข่าว และขอความร่วมมือจากองค์กรสมาชิกได้ทําความเข้าใจร่วมกันกับผู้ประกอบวิชาชีพข่าวในการรับเงินหรือค่าตอบแทนหรือขอการสนับสนุนกิจกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพข่าวจากแหล่งข่าวและการใช้สถานะผู้ประกอบวิชาชีพข่าวไปรับจ้างทํางานให้แก่แหล่งข่าว
ขณะที่ ผู้ประกอบกิจการและหน่วยงานของรัฐบางแห่ง ยังนิยมการให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ประกอบวิชาชีพข่าวเพื่อให้เสนอข่าวให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง เห็นควรเสนอให้องค์กรสื่อมวลชนจัดแถลงข่าวหรือมีหนังสือขอความร่วมมือจากผู้ประกอบกิจการและหน่วยงานราชการทุกแห่ง ห้ามให้เงินหรือค่าตอบแทนหรือเงินสนับสนุนกิจกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพข่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)