เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีอัตราอาชญากรรมต่ำมากจากหลายสาเหตุจนถึงขั้นมีแผนการปิดเรือนจำอีก 5 แห่งในปีนี้เพราะไม่มีนักโทษ ปัจจัยส่วนหนึ่งคือการที่เนเธอร์แลนด์มีการใช้ระบบกำไลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อติดตามนักโทษทำให้พวกเขาอยู่บ้านและไปทำงานได้ อีกทั้งยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้กระทำผิดกลับไปกระทำผิดซ้ำลดลง

29 มี.ค. 2559 เว็บไซต์เทคอินไซเดอร์รายงานโดยอ้างจากเอกสารของทางการเนเธอร์แลนด์ระบุว่าในปีนี้พวกเขามีแผนการจะปิดเรือนจำอีก 5 แห่งภายในช่วงปลายฤดูร้อน จากที่ก่อนหน้านี้ประเทศเนเธอร์แลนด์เคยปิดทำการเรือนจำไปแล้ว 19 แห่ง เมื่อปี 2556

ถึงแม้ว่าการสั่งปิดเรือนจำจะทำให้คนตกงานราว 2,000 คน โดยมีเจ้าหน้าที่เพียง 700 คนเท่านั้นที่จะได้ย้ายไปรับงานที่อื่นในสายงานบังคับกฎหมายของเนเธอร์แลนด์โดยที่ยังไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร แต่เนเธอร์แลนด์ก็จัดเป็นประเทศที่มีการสั่งปิดเรือนจำหลังจากที่มีจำนวนอาชญากรรมลดลงตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา

การที่ในเรือนจำไม่มีผู้ต้องขังเลยทำให้เมื่อเดือน ก.ย. 2558 ประเทศเนเธอร์แลนด์ถึงขั้นขอให้นอร์เวย์ส่งนักโทษมาอยู่ในเรือนจำพวกเขาเพียงเพื่อให้มันเต็ม

อาร์ด ฟาน เดอ สเตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของเนเธอร์แลนด์ประกาศว่าการต้องคอยบำรุงเรือนจำที่มีคนอยู่น้อยนั้นสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากเกินไปสำหรับประเทศเล็กๆ

เทคอินไซเดอร์ระบุว่ามีหลายปัจจัยมากที่ทำให้เนเธอร์แลนด์มีอัตราการก่ออาชญากรรมต่ำ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนผันกฎหมายยาเสพติด การเน้นเรื่องการบำบัดพฤติกรรมนักโทษมากกว่าการลงโทษ และระบบการติดตามตรวจสอบนักโทษด้วยกำไลอิเล็กทรอนิกส์ทำให้นักโทษยังคงสามารถเป็นแรงงานได้ โดยมีงานวิจัยปี 2551 ระบุว่าระบบกำไลข้อมืออิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถลดการทำผิดซ้ำลงได้ครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายรัฐเนื่องจากไม่ต้องให้นักโทษอยู่ในเรือนจำ รวมถึงให้โอกาสผู้กระทำผิดในการกลับไปทำประโยชน์ให้กับสังคมด้วย

เทคอินไซเดอร์ระบุว่าอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำให้คนไม่กลับไปทำผิดซ้ำจากพฤติกรรมเดิมๆ คือการสร้างโครงข่ายความปลอดภัยทางสังคม (Safety Net) ซึ่งหมายถึงการให้สวัสดิการแก่คนกลุ่มที่ด้อยโอกาสไม่ให้ร่วงหล่นสู่สภาพยากไร้

เรียบเรียงจาก

Dutch prisons are closing because the country is so safe, Tech Insider, 22-03-2016
http://www.techinsider.io/dutch-prisons-are-closing-2016-3