เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปรับแก้สมบูรณ์แล้ว ว่า ภาพรวมเห็นว่าเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตยถดถอยกว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 โดยเฉพาะบทเฉพาะกาลที่ยังไม่มีความแน่นอนเรื่องบทบาทของวุฒิสภา(ส.ว.) ที่ส่งผลต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะทำได้ยากขึ้น แต่มีข้อดีเรื่องมาตรการปราบโกงที่ใส่กลไกป้องกันไว้

 

“อยากเรียกร้องว่าในช่วงก่อนการทำประชามติ อยากให้คสช.คำนึงถึงการรับฟังฝ่ายที่เห็นต่าง เพราะเป้าหมายของการประชามติคือการมีส่วนร่วมของประชาชน หากไม่รับฟัง ปิดกั้น หรือใช้วิธีปรับทัศนคติ ท้ายที่สุดจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้ง เพราะการใช้วิธีพิเศษจัดการสถานการณ์จะไม่ยั่งยืน และจะไม่สามารถสร้างความชอบธรรมให้กับร่างรัฐธรรมนูญได้ เพราะสังคมจะกังขากับการประชามติ ขณะเดียวกันขอเรียกร้องให้มีความชัดเจนเรื่องเงื่อนไขกรณีประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะคลายความขัดแย้ง เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นสำหรับคำถามประกอบการทำประชามติ ไม่ควรเป็นคำถามที่ทำให้เกิดปัญหาต่อร่างรัฐธรรมนูญมากขึ้น เพราะจะทำให้เกิดความยุ่งยาก” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

 

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงอำนาจหน้าที่ของส.ว.ตามบทเฉพาะกาล ที่ให้มีส่วนพิจารณาร่างกฎหมายที่กระทบต่อกระบวนการยุติธรรมร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร ว่า เจตนาของกรธ. อาจต้องการให้วุฒิสภายับยั้งกฎหมาย เช่น ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม แต่การบัญญัติอาจทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นไปอีกทิศทางว่าอาจทำให้สนับสนุนการนิรโทษกรรมก็ได้

 

ส่วนการเปิดช่องทางให้ยกเลิกการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามที่เสนอบัญชีล่วงหน้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่เข้าใจเหตุผลชัดเจนที่จะนำไปสู่สถานการณ์ตามที่คาดการณ์กัน แต่เข้าใจว่าเป็นการเปิดช่องให้พรรคขนาดกลางและขนาดเล็กมีอำนาจต่อรองทางการเมือง ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว หากพรรคการเมืองแต่ละพรรคมีจุดยืนชัดเจน ปัญหาที่มีการคาดการณ์จะไม่เกิดขึ้น

 

“กระบวนการทั้งการให้มีส.ว.โดยตำแหน่ง หรือการเปิดช่องนายกรัฐมนตรีคนนอก ล้วนเป็นความถดถอยของร่างรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้ทุกฝ่ายมองให้ไกล เพราะหากเส้นทางไม่เป็นประชาธิปไตยในระยะยาวแล้ว จะทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงคือการสร้างประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน แม้ว่าในช่วงแรกจะไม่สามารถเป็นประชาธิปไตยได้ ก็ควรมีแนวทางให้ชัดเจนถึงการสร้างประชาธิปไตยในระยะยาว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับจุดยืนของพรรคจะมีความชัดเจนช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ขณะนี้กำลังให้สมาชิกศึกษาเนื้อหาอยู่