พบเฟซบุ๊กแฟนเพจของ คสช. เผยแพร่กราฟฟิก 10 ข้อดี ของร่างรัฐธรรมนูญ ที่จัดทำโดย กรธ. ขณะที่ กกต.ห้ามรณรงค์ให้คนคล้อยตามเพื่อโหวตอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้ขายเสื้อก็อาจผิด คสช.เองเคยชี้ อ.มหิดล แจกแผ่นพับ 7 ข้อเสียร่าง รธน.ผิด กม.ประชามติ
กกต.ห้ามรณรงค์ให้คนคล้อยตามเพื่อโหวตอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้ขายเสื้อก็อาจผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มีมติให้ออกประกาศ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ โดยมี 8 ข้อที่ทำไม่ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "การรณรงค์เพื่อให้เกิดการคล้อยตามของคนในสังคม เพื่อให้ออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง มีลักษณะการปลุกระดมหรือขัดขวางการออกเสียง" (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม)
โดยวานนี้ (4 พ.ค.59) สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการรายงานว่า มีเพจของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มหนึ่ง ประกาศจำหน่ายเสื้อ ตัวละ 300 บาท ในลักษณะรณรงค์ทั่วไป เพื่อนำไปสู่การปลุกระดมทางการเมือง ให้เกิดการออกเสียงประชามติ เป็นไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ซึ่งอาจขัดกับประกาศ กกต. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2559 ข้อ 5 (5) ซึ่งอาจจะเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มาตรา 61 (1) ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท ทั้งนี้ศาลอาจสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดไม่เกิน 5 ปีด้วยก็ได้ (อ่านรายละเอียด)
คสช.เคยชี้ อ.มหิดล แจกแผ่นพับ 7 ข้อเสียร่าง รธน.ผิด กม.ประชามติ
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา มติชนออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว นักวิชาการจากสถาบันสิทธิมนุษยชนศึกษา และการพัฒนาสังคม ม.มหิดล แจกจ่ายเอกสารรณรงค์โหวตโนไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญว่า หากพิจารณาจากเนื้อหาในเอกสาร จำนวน 7 ข้อ ที่นำมาเผยแพร่พบว่าเนื้อหาเข้าข่ายก่อความวุ่นวายตามมาตรา 61 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 และการเผยแพร่ดังกล่าวโดยผ่านสื่อมีเนื้อหาผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ถ้าไม่มั่นใจควรหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ไว้ก่อน ทั้งนี้ในข้อความตามเหตุผลทั้ง 7 ข้อในแผ่นพับเป็นเหมือนการคาดเดาใช้ความรู้สึกส่วนบุคคลที่ขาดการพิสูจน์ข้อเท็จจริงมาสนับสนุนชัดเจน ทำนองเดียวกันหากพิจารณาดูคร่าวๆ เบื้องต้นอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 61 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 อย่างไรก็ตามถือเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องดำเนินการในการเอาผิด