Skip to main content
sharethis

10 พ.ค. 2559 หลังจากกระแสข่าวเจ้าหน้าที่รัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลทางแชทในเฟซบุ๊กและนำมาใช้ในการดำเนินคดี โดยเฉพาะความผิดในข้อหมหมิ่นประมาทกษัตริย์ ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก พร้อมทั้งการสอบถามไปยังผู้ให้บริการอย่างเฟซบุ๊ก โดยล่าสุดวานนี้ (9 พ.ค.59)  สุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาประจำประเทศไทยของฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch - HRW) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้ คำตอบจากเฟซบุ๊ก ยืนยันกับ HRW ว่าไม่ได้มอบข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ให้กับรัฐบาลไทย ย้ำว่ามีการใช้ระบบที่ก้าวหน้าเพื่อรักษาความปลอดภัยและไม่ได้ถูกเจาะระบบ รวมทั้งมีกระบวนการทางกฎหมายที่เข้มงวดในการพิจารณาคำขอของรัฐบาลที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลหรือปิดกั้นเนื้อหาต่างๆ

ขณะที่ก่อนหน้านี้ (6 พ.ค.59)  บีบีซีไทย - BBC Thai รายงานว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลงานด้านประชาสัมพันธ์ของเฟซบุ๊กประจำสำนักงานในกรุงลอนดอนเปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า เฟซบุ๊กมีแนวปฏิบัติทางกฎหมายที่กำหนดกระบวนการอันเข้มงวดของเฟซบุ๊กในการดำเนินการกับคำขอของรัฐบาลในกรณีที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊ก และในรายงานล่าสุดเกี่ยวกับคำขอของรัฐบาลก็บ่งชี้ชัดว่าเฟซบุ๊กไม่ได้ให้ข้อมูลใด ๆ กับทางการไทย

บีบีซีไทย ยังรายงานด้วยว่า องค์การฮิวแมนไรท์วอท์ช ได้ออกแถลงการณ์ วานนี้ถึงกรณีการจับกุมแอดมินเพจล้อเลียนนายกรัฐมนตรี “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” ทั้ง 8 รายเรียกร้องให้รัฐบาลทหารของไทยยุติการดำเนินคดีกับแอดมินทั้งหมดทั้งจากข้อหายุยงปลุกปั่น และข้อหาอื่นๆ “พล.อ.ประยุทธ์ ดูเหมือนจะไม่ตระหนักว่าการสร้างความหวาดกลัวแก่คนที่ล้อเลียนเขาเพื่อให้เงียบไปนั้น มีแต่จะเชื้อเชิญให้มีการล้อเลียนลบหลู่มากขึ้นอีกจากผู้ที่หาหนทางจะหยุดการปิดกั้นของรัฐบาล” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียขององค์การฮิวแมนไรท์วอท์ช กล่าว

ศาลทหารปฏิเสธให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย โดยทนายจะยื่นขอประกันตัวอีกครั้งวันนี้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net