Skip to main content
sharethis
17 พ.ค. 2559 จากวานนี้ (16 พ.ค.59) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีให้สัมภาษณ์สื่อจากรัสเซียว่าไทยสนใจสั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์และยุทโธปกรณ์จากรัสเซียนั้น โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "วันนี้เธอถามสิ ประเทศเธอขาดอะไรบ้าง เธอทำเฮลิคอปเตอร์เองได้ไหม ได้หรอ สร้างได้หรอ ไอ้ที่ซื้อทั้งหมดกับเขานี่เพราะมันทำเองไม่ได้ มันก็ต้องไปหามาใช้ทดแทนสิ่งที่มันพัง สิ่งที่มันเก่า วันหลังไม่ต้องจัดนะไอ้เครื่อง MI17 อะไร ไม่ต้องให้พวกนี้นั่ง เอาไอ้ฮิวอี้รุ่นแรก 30-40 ปี ขึ้นนั่งให้หมด ทำไมทหารไม่มีชีวิตจิตใจหรือไง เขาจะซื้อไปทำอะไร"
 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การซื้อมันมีคำว่าการซื้ออาวุธหรือยุทโธปกรณ์ เพราะฉะนั้นในการหารือทุกครั้งก็พูดทุกประเทศ ไม่เฉพาะรัสเซีย มันเป็นการค้าขายการลงทุนมันต้องไปเพิ่มการศึกษาวิจัย เรื่องของการตั้งโรงงานซ่อมสร้าง ศูนย์รวมอะไหล่ เพราะมันต้องใช้ยังไงมันก็ต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ตนให้นโยบายว่ายุทโธปกรณ์นั้น จะต้องนำมาใช้ในการกู้ภัยด้วย มันก็มีเฮลิคอปเตอร์ที่ต้องใช้ ถามว่าถ้าประเทศอื่นเสนอมาราคาถูกกว่านี้ คุณภาพเท่านี้ มันก็อยู่ที่คณะกรรมการเป็นคนเลือกไม่ใช่ตน ตนก็ไปเจรจาขั้นต้นว่ามีความร่วมมือกันจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ระยะยาวตามแผนการพัฒนา แต่ไม่ใช่ซื้อทีเดียวยาว 20 ปี ไม่ใช่ มีเงินเท่าไหร่ก็ซื้อเท่านั้น ผ่อนกี่ปี แล้วกว่าจะซื้อเขาเขาจอดรอไว้ในศูนย์หรือไง ยังเป็นเหล็กขุดระเบิดขึ้นมาเลย แล้วมีตีเป็นตัวถังอีกสักเท่าไหร่ 3 ปีกว่าจะได้มา รถถังคันหนึ่ง 5 ปี กว่าจะได้มา 
 
"ไม่ใช่กลัวไปโน้ไปนี่ไปหมด แล้วผมถามว่า ถ้าเราไม่ซื้ออะไรเขา เขาอะไรเราไหม ไม่หรอ เราจะให้เขาซื้ออะไรเรา" พล.อ.ประยุทธ์ ถาม โดยผู้สื่อข่าวตอบว่าเห็นรัสเซียมีความสนใจเรื่องสินค้าทางการเกษตร จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสวนขึ้นมาทันทีว่า "ก็ใช่สิ เขาเรียกต่างตอบแทนไงเล่า เข้าใจคำว่าต่างตอบแทนไหม ใครมันจะบ้าไปซื้ออยู่ข้างเดียวอีกข้างเขาไม่ซื้อ มันก็เป็นการเจรจากันต่างตอบแทน ไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง ก็ทุกประเทศเขาก็ลดกับผมหมดล่ะ เว้นแต่ในประเทศไม่ลดกับผม มันะซื้อมาได้ไง ถ้า 100 ลำ มันก็ซื้อได้ 3 ลำ ผ่อนกี่ปีนั่นน่ะ ระหว่างนั้นเขาก็มาซื้อผลิตผลทางการเกษตรเรา มาดูสินค้าที่เราผลิตเป็นนวัตกรรมใหม่บ้าง แลกเปลี่ยนกันเรื่องการจัดซื้อหาพลังงาน คิดอย่างนี้สิ เราไม่มีอะไรสักอย่างเลยนะ มีแต่การเกษตรอย่างเดียว น้ำมันก็มีอยู่จำนวนจำกัด คุณภาพก็สู้เขาไม่ได้ มันถึงต้องมีน้ำมันส่วนหนึ่งที่ผลิดแล้วขายข้างนอกแล้วซื้อของดีเข้ามาขายในประเทศไทย คิดอย่างนี้"
 
พล.อ.ประยุทธ์ อธิบายด้วยว่า เวลาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เขามีคณธกรรมการจัดหายุทโธปกรณ์ในกองทัพหรือของกระทรวงเขาก็มี เขาจะมีคณะกรรมการกำหนดความต้องการ ความต้องการนี้เขาจะไปดูของที่ใช้แล้วมีเท่าไหร่ ความจำเป็นของประเทศเราควรจะมีเท่าไหร่ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ วันนี้ชีนุ๊กเราก็ไม่มี ก็ต้องหาขนาดกลางมาเสริม ขนาดกลางก็มีหลายประเทศที่ผลิดมา ถ้าคุณภาพเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน ขั้นต่ำต้องเท่านี้ แต่ไม่ใช่ถูกอย่างเดียว ต้องผ่านมาตรฐานที่เรายอมรับได้ด้วย จากนั้นมาดูเรื่อราคา และทั้งหมดนี้ซื้อตามแผนพัฒนากองทัพ รวมทั้งมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้วย โดยมีการมาทำโรงงานอยู่ในประเทศไทยเพื่อซ่อมชิ้นส่วนและเอาคนของเราไปเรียนรู้เพื่อพัฒนา
 
ส่วนคำถามเรื่องการซื้อรถถังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งหมดก็ไปพิจารณามา ต้องผ่านคณะกรรมการก่อน 
 

ผบ.ทบ.เผยเปลี่ยนจากซื้อรถถังรัสเซียมาซื้อจีนแล้ว

17 พ.ค.2559 พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่ทางกองทัพบกได้เสนอนายกรัฐมนตรี เรื่องความจำเป็นในการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ เพื่อมาทำงานแทนเฮลิคอปเตอร์ ซี-47 ชีนุก ว่า ปัจจุบันทางกองทัพขาดยุทโธปกรณ์ในด้านนี้ โดยกองทัพบกขอแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ของอัตรา เพื่อนำมาใช้ในกิจการบรรเทาสาธารณภัยและสนับสนุนกำลังพล ทั้งนี้การตัดสินใจซื้อเครื่องบินดังกล่าวจากประเทศรัสเซีย ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณา โดยย้ำว่าการขอเป็นไปตามความเหมาะสมกับงบประมาณของรัฐบาล อย่างไรก็ตามการจัดซื้อรถถังจากรัสเซียนั้นได้เปลี่ยนมาจัดซื้อกับประเทศจีนแทนแล้ว เพื่อชดเชยอุปกรณ์ที่เก่าและล้าสมัย ประกอบกับมีความเชื่อมั่นกับราคาและประสิทธิภาพ มั่นใจมีคุณภาพ เพราะการจัดซื้อครั้งนี้ตนและคณะกรรมการได้พิจารณาตรวจสอบแล้วถึงความเหมาะสม ตอนนี้ถือว่ากองทัพพอแล้ว

ประวิตรบอกประยุทธ์เยือนรัสเซียซื้อฮ.ไว้ใช้ขนส่ง-ดับไฟป่า 

วันเดียวกัน (17 พ.ค.59) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปเยือนประเทศรัสเซียมีแผนจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงรถถัง ว่า คงจะไปซื้อเฮลิคอปเตอร์ทั้งด้านการขนส่ง และดับไฟป่า เพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ไม่ได้ไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะรถถังของประเทศรัสเซีย ซึ่งย้ำว่าไม่เกี่ยวกัน อีกทั้งตนก็ไม่ได้เดินทางร่วมคณะไปด้วย ส่วนกรณีที่กองทัพบกจัดซื้อรถถังจากประเทศจีนนั้น ตนคิดว่าได้ซื้อจากประเทศจีนไปก่อนแล้ว หากจะซื้อจากประเทศรัสเซียคงต้องเป็นหน้าที่ของกองทัพบกเป็นผู้พิจารณา และดำเนินการตามแผนงาน และรายงานให้รัฐบาลทราบตามกรอบยุทธศาสตร์พัฒนากองทัพให้ทันสมัย

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดซื้อรถถัง จากประเทศจีนนั้น ต้องไปถามพล.อ.ธีรชัย ผบ.ทบ. ถึงราคา ขีดความสามารถเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้ทุกอย่างต้องผ่านคณะกรรมการกําหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก (กมย.ทบ.) ผ่านการทดสอบ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาว่าเป็นอย่างไร เพื่อมารายงานผบ.ทบ.ให้รับทราบ อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวมีมาก่อนแล้ว ไม่ใช่อยู่ๆก็จะไปซื้อ ขณะเดียวกันเรื่องของการส่งกำลัง รวมทั้งการซ่อมบำรุงเราต้องพิจารณาด้วย เพราะรถถังพวกนี้ต้องใช้ระยะเวลานาน

เมื่อถามว่าทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงผลิตยุทธภัณฑ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์แห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานมาเข้าพบจะพูดคุยเรื่องความร่วมมือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มี แต่ว่าเป็นการมาพูดคุยด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศว่าจะร่วมมือกันได้อย่างไร ทั้งนี้ตนอยากดูก่อนว่ายุทธปกรณ์จะใช้การร่วมกันได้หรือไม่ พร้อมทั้งผลิตร่วมกันได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามตนยังไม่ทราบรายละเอียดเพราะเป็นการพูดคุยกันในครั้งแรก ทั้งนี้ขอย้ำว่าการพูดคุยครั้งนี้ไม่มีความร่วมมือทางด้านทหารเป็นพิเศษไม่ว่าประเทศใดก็ตาม เพราะเราอยู่ในกรอบของอาเซียน แต่ว่าความร่วมมือด้านนี้คงเป็นเพียงการศึกษา การฝึก เป็นต้น

เล็งซ้อมรบร่วมรัสเซีย-จีน

“ขอย้ำว่าในการร่วมมือกันดุลอำนาจต่างๆ นั้น โดยที่ไม่ได้ผูกขาดประเทศใด ผมคิดว่าเป็นเรื่องดี แต่เราต้องดูเรื่องการซ่อม และส่งกำลังบำรุงว่าสามารถดำเนินการได้กี่วัน อยากให้ใช้ร่วมกันได้ อาทิ กระสุน หรือลำกล้องต่างๆ ถ้าเราจะซื้อต้องสามารถใช้ร่วมกันได้ อีกทั้งขอย้ำว่าไม่ใช่เป็นเพราะยุครัฐบาลทหารเท่านั้นที่จะจัดซื้ออาวุธได้ เพราะสมัยก่อนตอนผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็จัดซื้อเหมือนกัน ซึ่งเหมือนกันทุกรัฐบาลที่ดำเนินการตามนโนบายกองทัพ” พล.อ.ประวิตร กล่าว และว่า สำหรับการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศรัสเซีย กับจีนนั้น ตนคิดว่าเรายึดนโยบายอิสระ ประกอบกับการเป็นประเทศเล็กก็ต้องร่วมมือทุกประเทศ เพื่อให้ดูแลช่วยเหลือเราได้ ทุกๆเรื่องทั้งยุทโธปกรณ์ การค้าขาย การท่องเที่ยว ฯลฯ

เมื่อถามต่อว่าในอนาคตจะมีการฝึกซ้อมรบกระสุนจริงกับประเทศรัสเซีย หรือไม่ รองนายกฯประวิตร กล่าวว่า ต้องดูก่อน อาจเริ่มต้นในระดับต่ำ และการพูดคุยกันก่อนว่าจะฝึกอะไรกันได้บ้าง ในที่นี้รวมทั้งจีนด้วยเช่นกัน

 

ที่มา : ยูทูบ ทำเนียบ รัฐบาล มติชนออนไลน์ และบีบีซีไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net