Skip to main content
sharethis

ศาลฎีกาตัดสินจำคุก-ปรับ 'จตุพร' คดีหมิ่นอภิสิทธิ์ กรณีแถลงข่าวปี 52 โดยโทษจำคุกรอการลงโทษ 2 ปี ด้าน แกนนำ นปช. เผยตรวจสอบเสื้อแดงชู 3 นิ้วในธรรมกาย ไม่มีในระบบการ์ดแดง ชี้เป็นการจัดฉาก ปมพุทธะอิสระโพสต์เสื้อแดงถือกระเป๋าใหญ่เข้าวัด

 จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.

2 มิ.ย. 2559 จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เดินทางไปศาลอาญา รัชดา เพื่อฟังคำตัดสินขั้นฎีกาในคดีหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีที่อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จตุพร เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ปี 52 จตุพร แถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย กล่าวหา อภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี กระทำการมิบังควรตีตนเสมอพระเจ้าแผ่นดิน โดยนั่งเก้าอี้เทียบเสมอพระเจ้าแผ่นดินในการถวายรายงานราชการ

โดยศาลชั้นฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น มีความผิดจริงตามฟ้อง ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 57 จำคุก  จตุพร 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี-ผู้จัดการรายวัน และหนังสือพิมพ์มติชน เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน
 
ด้าน จตุพร กล่าวยอมรับคำตัดสินของศาล
 

เผยตรวจสอบเสื้อแดงชู 3 นิ้วในธรรมกาย ไม่มีในระบบการ์ดแดง

จตุพร ยังกล่าวในรายการ มองไกล วันนี้ด้วยว่า ภาพชายฉกรรจ์อ้างเป็นการ์ดเสื้อแดงในวัดพระธรรมกายเป็นการจงใจ จัดฉากขึ้นมา เพื่อทำให้เข้าใจผิดว่า วัดเป็นแหล่งส่องสุมกองกำลัง ซึ่งรอรับเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในอนาคต

จตุพร ระบุว่า เมื่อพุทธะอิสระโพสต์มีชายฉกรรจ์พร้อมกระเป๋าใบใหญ่เข้าไปในวัดพระธรรมกาย จากนั้นมีภาพชายใส่ชุดขาวชูสามนิ้ว อ้างเป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัย หรือการ์ดเสื้อแดงอยู่ในวัดพระธรรมกาย ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รีบตรวจสอบชายในภาพเช่นกัน ดังนั้น ตนขอให้ชายคนนี้แสดงตัวออกมาให้ชัดเจน เพราะนปช.ได้ตรวจสอบรายชื่อแล้ว ไม่มีในสาระบบของการ์ดเสื้อแดง ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่ธรรมดาแน่นอ

จตุพร ยังกล่าวด้วยว่า ตนต้องการรู้เช่นกันว่า เป็นใครจึงมาถ่ายรูปในวัด โดยจงใจทำลายความน่าเชื่อถือของวัดพระธรรมกาย ส่วนการติดลวดหนามตามรั้วของหมู่บ้าน แล้วฝ่ายตรงข้ามนำมาเล่นงานใส่ร้ายนั้น ล้วนเป็นเกมเดิมๆ ของพวกเชื้อชั่วไม่ย่อมตาย วัดพระธรรมกายต้องเพิ่มมาตรการตรวจสอบให้มากขึ้น ควรติดกล้องไว้ทุกจุดสำคัญ เพราะต้องป้องกันการใส่ร้าย ซึ่งพวกตนเคยเจอมาแล้วในเหตุการณ์ปี 2553

ประธาน นปช. กล่าวอีกว่า การพยายามใส่ร้ายนั้น เริ่มปรากฏขึ้นจากฝ่ายพุทธะอิสระเริ่มขึ้นก่อน โดยอ้างว่า มีชายเสื้อแดงขนกระเป๋าใบใหญ่เข้าวัดพระธรรมกาย ถัดมาแบบต่อเนื่องกัน ได้มีภาพการ์ดเสื้อแดง ถ่ายรูปชู 3 นิ้วอีก ซึ่งน่าแปลกใจมากที่บังเอิญมาสอดคล้องกันได้ ตนจึงขอชายผู้อ้างตัวนั้นได้แสดงตัวออกมา และดีเอสไอต้องไปจับตัวมาสอบถามว่า คุณเป็นใคร ทำไมไปถ่ายรูปชูสามนิ้วแบบโง่ๆ และใครสั่งให้ไปทำ พยายามสร้างเรื่องให้วัดพระธรรมกายเสื่อมเสีย ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นแหล่งส่องสุ่มกำลัง

ดังนั้น ไม่ใช่ความบังเอิญ หรือเป็นความฉลาดของพวกคนแก๊งนี้ แต่จงใจจะยัดเรื่องให้ จึงขอให้วัดพระธรรมกายป้องกันตัวให้มาก ไม่เช่นนั้นจะถูกจัดฉาก สร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การทำลายศรัทธา ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จในการโยนความผิดมาแล้ว ทั้งการยัดอาวุธ ซุกยาเสพติด แล้วมีถุงยางอนามัยใช้แล้ววางเกลื่อนกราด สิ่งนี้จึงเป็นการจงใจสร้างเรื่องขึ้น ตั้งแต่วันนัดพระธัมมชโยมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.คลองหลวง แต่ไม่เดินทางเข้าไปแจ้งข้อหาในวัด ถ้าทำเช่นนั้น ทุกอย่างจบเรื่องอย่างง่ายดายไปแล้ว
 

ชี้เป็นการจัดฉาก ปมพุทธะอิสระโพสต์เสื้อแดงถือกระเป๋าใหญ่เข้าธรรมกาย

"ผมเรียนอีกครั้งหนึ่งว่า เรื่องนี้ถ้าปรากฏมีเพียงภาพนี้ เราต้องประเมินกันว่า โง่หรือจงใจ แต่ทันที่ที่พุทธอิสระโพสต์ว่า ชายฉกรรจ์เสื้อแดงถือกระเป๋าใหญ่เข้าวัดพระธรรมกายนั้น ผมรู้ทันทีว่า นี่มันมีงานแล้ว และดีเอสไอขานรับเข้าไปตรวจสอบ จึงเป็นลักษณะแบ่งงานกันทำ มันไม่บังเอิญกันไปหน่อยหรือ เมื่อการจัดฉากต้นทางเป็นเช่นนี้แล้ว เรารู้ได้เลยว่า ปลายทางจะเป็นอย่างไร ผมขอบอกไปยังดีเอสไอว่า คุณเลิกความคิดนี้เถิด ส่วนพุทธะอิสระ มันเกินความปกติแล้ว เพราะไม่มีใครเห็นภาพชายเสื้อแดงขนกระเป๋าใบใหญ่เข้าวัด จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว แต่เป็นการจงใจจะจัดฉาก เพื่อรองรับเหตุการณ์ในวันหน้า และการเตรียมกำลังตำรวจ 2,350 นาย ที่จะเตรียมการในวันหน้านั้น ไม่ได้เพียงต้องการตัวพระธัมมชโยมารับทราบของกล่าวหา แต่ถ้าติดตามสถานการณ์บ้านเมืองแล้ว ย่อมคิดได้ทันทีว่า ใครกำลังคิดอ่านอะไรกัน" จตุพร กล่าว

จตุพร กล่าวว่า วันนี้วัดพระธรรมกายกำลังถูกจัดฉาก สร้างสถานการณ์ให้เสื่อมเสีย โดยมีการจัดฉากขึ้นจากกลุ่มคนที่ทำเป็นขบวนการ และต่อไปเชื่อว่า คงไปสู่การยัดข้อหาให้วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยมุ่งหวังทำลายสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เพราะกลุ่มคนพวกนี้ต้องการทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง และไม่ต้องการให้เรื่องจบ 

จตุพร กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย ตนเชื่อว่า เป็นการสั่นสะเทือนพุทธศาสนา โดยฝ่ายอาณาจักรได้สร้างปัญหาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายศาสนจักร เมื่อมีข่าวจะมีการแก้ไข ม.7 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ปี 2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มปี 2535 ในส่วนที่มาสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งสร้างผลกระทบต่อการปกครองของสงฆ์ จึงไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เป็นคนอคติต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสร้างปัญหาให้วงการสงฆ์มากขึ้น
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net