Skip to main content
sharethis


 

2 มิ.ย. 2559 เมื่อเร็วๆ นี้ มีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน 'รักษาดินแดน' ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในหน่วยงานของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน โดยเบื้องต้น กำหนดให้ นักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) ประจำปีการศึกษา 2559 ราวสามแสนคนใช้ก่อน และจะพัฒนารองรับ นศท. ที่จบการศึกษาแล้วในอนาคต

ทั้งนี้ แอปฯ ดังกล่าว มีการขอเข้าถึงข้อมูลต่างๆ จำนวนมาก เช่น ประวัติการดูเว็บ หน้าเว็บที่บุ๊กมาร์กไว้ ประวัติการโทร เปลี่ยนเส้นทางการโทรออก ภาพและไฟล์ในเครื่อง ถ่ายภาพและวิดีโอ บันทึกเสียง ดูว่ามีแอปอื่นๆ อะไรเปิดอยู่บ้าง ดูและเข้าถึงระบบเครือข่ายและบลูทูธ รวมถึงแก้ไขการตั้งค่า ลบแคชของแอปทั้งหมด และยังห้ามไม่ให้อุปกรณ์เข้าสู่โหมดนอนหลับ (sleep mode) ได้อีกด้วย

เพจเครือข่ายพลเมืองเน็ต แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า การออกแบบแอปและบริการ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ แอปและบริการภาครัฐ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540

"หลักการประการหนึ่งที่สำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก็คือ เก็บข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็น อีกประการหนึ่งก็คือ การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ซึ่งในการขอความยินยอมนั้น จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบถึงจุดประสงค์ด้วยว่า จะนำข้อมูลไปใช้เพื่ออะไร" เครือข่ายพลเมืองเน็ต ระบุ

สำหรับแอปพลิเคชัน 'รักษาดินแดน' คำอธิบายแอปฯ ระบุว่า เป็นแอปพลิเคชันสำหรับใช้ในหน่วยงานของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อการประสานงานต่างๆ ในหน่วยงานของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน รวมทั้งการติดต่อสื่อสารกันหว่าง นศท. และครูฝึก เพื่อให้เกิดความคล่องในการปฏิบัติงานหรือกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งความรวดเร็วในการกระจายข่าวสาร การแสดงความคิดเห็นในกิจกรรมต่างๆ

โดย พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่าแอปพลิเคชันนี้จะช่วยเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยระบุว่า ทำได้ แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย

“เรื่องกฎหมายเรื่องการเมืองนี้เราไม่เกี่ยวข้องนะครับ เราจะต้องไม่เกี่ยวข้องแน่นอน แต่แอปพลิเคชันก็เหมือนไลน์ ก็สามารถที่จะกระจายข่าวสารได้ ส่งข้อความเชิญชวนกันได้ แต่จะต้องไม่ผิดกฎหมายนะครับ เพราะว่าเรามีศูนย์ที่จะควบคุม อะไรที่ผิดกฎหมายท่านจะต้องถูกลงโทษนะครับ แม้แต่ท่านเป็นเด็ก ท่านก็อยู่ภายใต้กฎหมายบ้านเมือง และจะต้องอยู่ภายใต้กติการกฎระเบียบของทางทหารด้วย” พล.ท.วีรชัย กล่าวและว่า “ข้อความต่างๆ จะต้องถูกควบคุมโดยศูนย์ที่นี่”

นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนสามารถควบคุมสิ่งที่ไม่เหมาะสมได้ โดยมีการติดตั้งระบบตรวจสอบไว้แล้ว ดังนั้นผู้ใช้งานบางคนอาจไม่สามารถโพสต์ได้ทุกข้อความ

ด้านนายวรวัฒน์ นาคแนวดี ประธานฝ่านเทคโนโลยี บริษัท ธนพัฒน์ อินเตอร์โซเชียลมีเดีย จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน กล่าวถึงความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลว่า ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นความลับและอยู่ภายใต้หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนเท่านั้น จะไม่รั่วไหลออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ

 

ที่มา: FB อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุลแอปรักษาดินแดน (Android, iOS), เดลินิวส์ออนไลน์, NOW26, เครือข่ายพลเมืองเน็ต  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net