ร้องยูเอ็น พิจารณาประเด็นซ้อมทรมานในไทย แม่เผยก่อนลูกตายก็ไม่ได้พบ

กลุ่มเครือข่ายภายประชาสังคมร่วมอ่านจดหมายเปิดผนึกถึงยูเอ็น กรณีการซ้อมทรมานในไทยเนื่องในวันต่อต้านการทรมานสากล ด้านครอบครัวผู้เสียหายร่วมเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนเองได้ประสบ

29 มิ.ย. 2559 เครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) ภาคีร่วม และกลุ่มครอบครัวผู้เสียหายจากการทรมานจำนวนหนึ่ง ร่วมอ่านจดหมายเปิดผนึกด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ และเข้าไปยื่นหนังสือต่อ เลอรอง เมลลอง รักษาการผู้แทนข้าหลวงใหญ่ว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษชน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องในวันต่อต้านการทรมานสากล ซึ่งตรงกับ 26 มิ.ย. ของทุกปี

จดหมายดังกล่าวมีเนื้อหากล่าวถึงการที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมภาคีอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 แต่จากรายงานขององค์กรภาคประชาสังคมด้านสิทธิมนุษยชนได้สะท้อนให้เห็นว่าหลายครั้งที่มีการซ้อมทรมานนั้น เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐหรือภายใต้การรับรู้ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเท่ากับว่าประเทศไทยยังไม่สามารถปฏิบัติตามพันธกรณีในอนุสัญญาเฉกเช่นที่ควรจะเป็น ทางเครือข่ายจึงขอเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติรับพิจารณาปัญหาการทรมานประชาชนในบริบทของประเทศไทย สู่การหามาตรการในการให้การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการของมนุษยธรรม

บุญเรือง สุธีรพันธุ์ หนึ่งในกลุ่มครอบครัวผู้เสียหายที่เข้าร่วมกิจกรรมกล่าวว่า ตนหวังว่าการการซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐจะหมดไป และอยากให้ผู้ที่กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและได้รับโทษอย่างเหมาะสม

โดยบุญเรืองได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชายของตนว่า ลูกชายของตน สิบโทกิตติกร สุธีรพันธุ์ ทำหน้าที่รับราชการอยู่ในมณฑลทหารบก 25 จ.สุรินทร์ หน่วยงานทหารราบ ร.23 เขาถูกจับกุมในวันที่ 1 ก.พ. ด้วยข้อหาให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา หลังจากนั้นตนได้พยายามยื่นประกันตัว แต่ถูกศาลทหารปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ากลัวผู้ต้องหาหลบหนี

บุญเรืองกล่าวต่อว่า จากนั้น ได้พยายามที่จะเข้าเยี่ยมลูกชายตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากทางผู้คุมกล่าวว่ายังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ไม่สามารถให้เข้าเยี่ยมได้ ต่อมา ตนได้ขอเข้าเยี่ยมในทุกวันเสาร์ แต่ยังถูกปฏิเสธการให้เยี่ยมด้วยเหตุผลเดิม โดยครั้งสุดท้ายที่ขอเข้าเยี่ยมคือ 20 ก.พ. ซึ่งก็ถูกปฏิเสธเช่นเดิม หลังจากนั้นเพียงหนึ่งวัน เช้าวันที่ 21 ก.พ. ก็ได้รับโทรศัพท์ว่าลูกชายตนเองเสียชีวิต

"เขาไม่เคยบอกอะไรแม่เลย ไม่เคยบอกว่าลูกเจ็บหรือป่วย บอกแค่เยี่ยมไม่ได้เพราะอยู่ในชั้นสืบสวน ขนาดแม่ไปก่อนวันที่เขาโทรมาแค่วันเดียวเขายังไม่เคยบอก" นางบุญเรืองกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท