เมล็ดพันธุ์เล็กๆ ในบูดาเปสต์ 'ผู้ปกป้องสวนสาธารณะ' ทวงคืนการมีส่วนร่วมของประชาชน

 

2 ก.ค. 2559 ชุมชนนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ ในบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี พากันตั้งแคมป์ปักหลักประท้วงที่สวนสาธารณะในเมืองเป็นการต่อต้านไม่ให้รัฐบาลฮังการีตัดต้นไม้โดยรอบเพื่อสร้างส่วนเพิ่มเติมของพิพิธภัณฑ์ในนามโครงการเดอะลิเก็ต (The Liget) ซึ่งมีมูลค่า 729 ล้านดอลลาร์

ถึงแม้ว่าเว็บไซต์ของโครงการจะอ้างว่าพวกเขาต้องการทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นแหล่งศูนย์รวมพื้นที่สันทนาการและพื้นที่วัฒนธรรมแบบครอบครัวที่ได้มาตรฐานโลก แต่โครงการดังกล่าวก็ต้องตัดต้นไม้ในบริเวณนั้นหลายร้อยต้นรวมถึงนำสาธารณูปโภคพื้นฐานในบริเวณนั้นออกซึ่งเป็นส่งที่ประชาชนจำนวนมากไม่สนับสนุนให้ทำ

จนกระทั่งถึงเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่คนงานจากบริษัทที่รับบูรณะพื้นที่สวนสาธารณะกำลังเข้ามาตัดต้นไม้ มีนักกิจกรรม 15-20 คนเข้าไปหยุดพวกเขาเพื่อปกป้องต้นไม้ในสวนและปักหลักชุมนุมอยู่ที่นั่นมาตลอดในอีก 15 สัปดาห์ต่อมา นักกิจกรรมกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "ผู้ปกป้องสวนสาธารณะ" พวกเขาตั้งแคมป์กันอยู่ตรงที่มีการตัดต้นไม้ มีนักกิจกรรมและคนจัดการประท้วงรวม 30 คนเวียนกันเข้าออกที่พักแรมอย่ตลอดเวลา บางครั้งก็มีผู้สนับสนุนจากที่อื่นมาเข้าร่วมด้วยและในช่วงสุดสุปดาห์พวกเขาก็จัดกิจกรรมหลากหลาย นักกิจกรรมกลุ่มนี้มีหน้าเพจของเฟซบุ๊กที่มีคนคลิกไลค์แล้วมากกว่า 10,300 ไลค์

แม้ว่าจะมีความขัดแย้งกันภายในบ้างแต่ แดเนียล บอร์เบลี หนึ่งในนักกิจกรรมก็บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่พอมีชุมชนใดเกิดขึ้นก็จะมีความขัดแย้งภายในแต่สุดท้ายแล้วก็ต้องมานั่งคุยกันเพื่อแก้ปัญหา บอร์เบลี บอกอีกว่านักกิจกรรมส่วนใหญ่มีเป้าหมายหลักคือการปกป้องคุ้มครองต้นไม้และพื้นที่สีเขียว รวมถึงความไม่พอใจที่โครงการนี้มีอัตราส่วนที่ใหญ่มาก บอร์เบลี เปิดเผยว่าโดยส่วนตัวเขาเองเขายอมรับได้ที่จะตัดต้นไม้สักเล็กน้อยแต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดกว่าเขาจะรับได้เขาจึงเข้าร่วมประท้วง

ทางด้านตัวแทนจากบริษัท วาโรสลิเก็ต บริษัทที่รับบูรณะพื้นที่ดังกล่าวเปิดเผยว่าพวกเขาจะจัดการบูรณะให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้นและจะเป็นการช่วยลดความแออัดของการจราจรด้วย อย่างไรก็ตาม Waging Nonviolence ระบุว่ามีพื้นที่บางส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์ใช้พื้นที่ของสวนสาธารณะอยู่แล้วและโครงการนี้ของรัฐบาลฮังการีเป็นการพยายามทำให้สวนสาธารณะกลายเป็นพื้นที่ส่วนเสริมของพิพิธภัณฑ์สำหรับชนชั้นนำ อีกทั้งเนื่องจากบูดาเปสต์มีพื้นที่สีเขียวอยู่จำกัดมากอยู่แล้วนักกิจกรรมจึงเกรงว่าการบูรณะพื้นที่ในคราวนี้จะทำให้สวนสาธารณะไม่เป็นสวนสาธารณะอีกต่อไป

นอกจากนี้ยังมีนักกิจกรรมอีกบางส่วนที่มองว่าแผนการต่อเติมพิพิธภัณธ์ที่ล่วงล้ำสวนสาธารณะถือเป็นฝ่าฝืนระบอบประชาธิปไตยและเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลพยายามใช้อำนาจของตัวเองเพราะไม่มีการทำให้สาธารณะเข้าไปมีส่วนในการตัดสินใจเรื่องนี้เลย แม้ว่าจะมีผลสำรวจจากสถาบันวิจัยกิจการสาธารณะอิปซอสส์ระบุว่าผู้ทำแบบสำรวจในบูดาเปสต์ร้อยละ 75 ไม่เห็นด้วยกับการตั้งอาคารใหม่ทับพื้นที่สวนสาธารณะ นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังระบุว่าไม่ต้องการให้ย้ายหอศิลป์แห่งชาติฮังการีออกจากปราสาทบูดาและไม่ต้องการให้ย้ายที่ทำการรัฐบาลไปยังปราสาทบูดา

นักกิจกรรมเชื่อว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคอนุรักษ์นิยมในปัจจุบันต้องการย้ายพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูดาเปสต์และหอศิลป์ไปที่อื่นเนื่องจากต้องการย้ายที่ทำการรัฐบาลและทำเนียบไปอยู่ในปราสาทแทน จากที่ก่อนหน้านี้ปราสาทบูดาเป็นที่ประทับของกษัตริย์ฮังการี ทำให้ผู้ประท้วงมองว่าการพยายามย้ายเข้าไปของรัฐบาลชุดนี้ถือเป็นการแสดงออกราวกับ "ระบอบกษัตริย์เทียมๆ ในยุคศตวรรษที่ 21" ที่ดูเหมาะสมกับการกระทำของรัฐบาลชุดนี้ในการพยายามสร้าง "ประชาธิปไตยที่ไม่เสรี" เช่นการออกกฎหมายใหม่หลายร้อยฉบับที่ลิดรอนประชาธิปไตยและเสรีภาพพลเมืองรวมถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาอำนาจของพวกตัวเองไว้

ในตอนนี้ทั้งในฮังการีและในต่างประเทศผู้คนต่างก็มองว่านายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน เป็นเผด็จการคนใหม่ของฮังการี ในรายงานขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติปี 2554 ระบุว่าผู้นำทางการเมืองและนักธุรกิจชั้นนำในประเทศฮังการีต่างก็ทำให้ประเทศถูกครอบงำโดยกลุ่มผลประโยชน์ที่มีอิทธิพลมาก และเพื่อจัดการกับอำนาจที่ไม่สมดุลเช่นนี้ กลุ่มนักกิจกรรมผู้ปกป้องสวนสาธารณะจึงเรียกร้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจการบูรณะสวนสาธารณะด้วย โดโรธี เทย์เลอร์ หนึ่งในนักกิจกรรมจากกรีนพีชซึ่งเข้าร่วมปักหลักประท้วงด้วยบอกว่า ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นคือการยับยั้งโครงการของรัฐที่มีการจัดการจากบรรษัททั้งๆ ที่มันควรจะมาจากการตัดสินใจของประชาชน

แม้พวกเขาจะยังบอกไม่ได้ว่ารัฐบาลจะยอมให้ประชาชนมีส่วนร่วมหรือไม่ แต่อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็ยับยั้งการตัดต้นไม้ได้ บอร์เบลีบอกว่าเป้าหมายระยะสั้นในตอนนี้คือพวกเขาต้องไม่ถูกไล่ที่ไปเสียก่อน กลุ่มของพวกเขาตกลงกันว่าจะสร้างพื้นที่ของชุมชนขึ้นที่นี่โดยเชื่อว่าถ้าหากมีการสร้างพื้นที่ให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมก็จะทำให้พวกเขามองเห็นวัตถุประสงค์ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพื้นที่ศิลปะ การแสดงละคร หรือการจัดสวนชุมชน ผู้คนต้องการสวนสาธารณะเช่นนี้เพราะไม่ใช่ทุกคนในเมืองจะมีสวนเป็นของตัวเอง หรือกระทั่งทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นศูนย์ชุมชนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทย์เลอร์มองว่าขบวนการนี้อาจจะเป็นเมล็ดพันธุ์เล็กๆ แต่มันก็จะถูกปลูกฝังลงไปในดินที่อาจจะผลิดอกออกผลไปไกล ไม่เพียงแต่เฉพาะในฮังการีเท่านั้น

 

เรียบเรียงจาก

Activists occupy major park in Budapest to stop unwanted development, Waging Nonviolence, 29-06-2016

http://wagingnonviolence.org/feature/activists-occupy-major-park-in-budapest-to-stop-unwanted-development/

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท