หลังโฆษก กรธ. ออกมาให้ข่าวกรณีการพบปะรองเลขาฯ ยูเอ็น โดยระบุว่ายูเอ็นไม่ได้ติดใจกฎหมายประชามติของไทย ล่าสุด ยูเอ็นเผยแพร่เนื้อหาการพูดคุย ย้ำห่วงสถานการณ์การจำกัดเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมช่วงก่อนประชามติร่างรัฐธรรมนูญ

6 ก.ค. 2559 วานนี้ (5 ก.ค.) เว็บไซต์องค์การสหประชาชาติ เผยแพร่สรุปการพบปะระหว่าง เยน เอลลิไอเซ่น (Jan Eliasson) รองเลขาธิการสหประชาชาติ กับ วีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

โดยรองเลขาธิการสหประชาชาติแสดงความกังวลเกี่ยวกับรายงานล่าสุดเรื่องการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม ในช่วงก่อนการประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค. นี้ พร้อมระบุว่า การเคารพสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนและเน้นถึงความจำเป็นของการแลกเปลี่ยนสนทนาที่เปิดกว้างให้ทุกคนมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยและสนับสนุนการปรองดองของชาติ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นรชิต สิงหเสนี โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้ข่าวกับสื่อมวลชนถึงการเข้าพบรองเลขาธิการสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทยว่า การเข้าพบดังกล่าวเป็นการเข้าชี้แจงทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ภายในประเทศช่วงของการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นกฎหมายประชามติ สิ่งใดทำได้ทำไม่ได้ในระหว่างการทำประชามติ นอกจากนี้รัฐบาลไทยได้ยืนยันต่อสหประชาชาติว่า จะมีการเลือกตั้งภายในปี 2560 อย่างแน่นอนไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ พร้อมระบุว่า รองเลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความเป็นห่วงและย้ำเป็นพิเศษถึงการแสดงความเห็นต่างๆ ว่า ควรเปิดโอกาสอย่างเสรีและให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง โดยรองเลขาธิการสหประชาชาติ ยืนยันเข้าใจต่อสถานการณ์ของไทยและไม่ได้บังคับหรือสั่งการใดๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยดำเนินการตามหลักการสากล พร้อมยินดีที่ไทยหารือมายังสหประชาชาติอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้ติดใจในกฎหมายประชามติของไทยแต่อย่างใด

นรชิต ให้ข่าวด้วยว่า เรื่องการสังเกตการณ์ทำประชามตินั้น สหประชาชาติไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ แต่รัฐบาลไทยพร้อมให้การต้อนรับหากสหประชาชาติเข้ามาสังเกตการณ์ แต่ยืนยันว่าไทยจะไม่เชิญประเทศใดเป็นพิเศษ เพราะการทำประชามติถือเป็นเรื่องภายในประเทศ