Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ… หลังจากบังคับใช้มาแล้ว 24 ปี โดยแก้ไขสาระสำคัญ เช่น การแก้ไขนิยามของโรงงานอุตสาหกรรม จากเดิมการประกอบกิจการโรงงานต้องมีเครื่องจักรขนาด 5 แรงม้าขึ้นไป และมีแรงงาน 5 คน เปลี่ยนเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเข้าข่ายการขออนุญาตใบ รง.4 ต้องมีขนาดเครื่องจักร 50 แรงม้าขึ้นไป มีแรงงาน 50 คนขึ้นไป ดังนั้น กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะควบคุมดูแลกิจการที่มีขนาดเครื่องจักรตั้งแต่กำลัง 50 แรงม้าขึ้นไป ส่วนต่ำกว่า 50 แรงม้ามอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำกับดูแล เพื่อติดตามดูแลโรงงานในท้องถิ่นและจัดเก็บค่าธรรมเนียมและกำหนดให้มีคณะกรรมการจากบุคคลภายนอกช่วยติดตามดูแลการประกอบกิจการโรงงาน

สำหรับร่างกฎหมายโรงงานใหม่ มีโรงงานขนาด 50-75 แรงม้า จำนวน 7,455 ราย ขนาดกำลัง 76-100 แรงม้า จำนวน 71,189 ราย โรงงานขนาดเครื่องจักร 100 แรงม้าขึ้นไป จำนวน 48,621 ราย รวมทั้งหมด กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำกับดูแล 63,265 ราย จากเดิมกรมโรงงานอุตสาหกรรมต้องกำกับดูแล 139,334 ราย จึงต้องโอนโรงงานไปให้ อปท.ดูแล ซึ่งมีขนาดเครื่องจักรต่ำกว่า 50 แรงม้า จำนวน 59,000 ราย เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย และลดภาระการดูแลของกรมโรงงานฯ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ปรับค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตจากเดิม 100,000 บาท เพิ่มเป็น 1 ล้านบาท เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญดูแลกิจการตามข้อกำหนด และเมื่อต้องการต่อใบอนุญาต เมื่อจ่ายค่าธรรมเนียมแล้วไม่ต้องทำการตรวจสอบ แต่ดำเนินการตามข้อกำหนด

รวมทั้งเพิ่มโทษสำหรับโรงงานผู้กระทำผิดปล่อยน้ำเสีย ปล่อยมลภาวะ จากเดิมมีความผิดทางแพ่งอายุความ 1 ปี ปรับ 200,000 บาท เพิ่มโทษเป็นมีความผิดทางอาญา ซึ่งต้องพิจาณาโทษหนักหลายชั้นศาล โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 200,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และแก้ไขการให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาให้โรงงานผลิต วิจัย ของสถาบันของรัฐ องค์กรของรัฐ หรือกิจการขนาดเล็กไม่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงงาน จากการแก้ไขกฎหมายหลายด้านทำให้การขอใบอนุญาตใบ รง.4 รวดเร็วขึ้น จากเดิมต้องใช้เวลานับปีกว่าจะได้ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม

 

ที่มา สำนักข่าวไทย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net