Skip to main content
sharethis

เครือข่ายการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน ชี้ล้มกระดานเลือกเลขาฯ สปสช. เป็นบันไดก้าวแรกของการล้มบัตรทอง คาดขั้นต่อไป แก้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำระบบหลักประกันเป็นระบบอนาถา

กรณีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ลงมติไม่รับรอง นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการ สปสช. ผู้สมัครเลขาธิการ สปสช. เป็นเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ ด้วยคะแนน 14 ต่อ 13 และให้เริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุด (8 ก.ค. 2559) เครือข่ายการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน โดยนายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ประธานเครือข่ายฯ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ เรื่อง "การล้มกระดานการเลือกเลขาธิการ สปสช.คือ บันไดก้าวแรกของการล้มบัตรทอง" โดยระบุว่า ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2544 มีหัวใจของความสำเร็จอยู่ 3 ประการสำคัญคือ 1. ความต่อเนื่องทางนโยบายที่ทุกรัฐบาลสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง 2.ความต่อเนื่องในการบริหารจัดการที่มีเลขาธิการและทีมที่ตั้งมั่นในอุดมการณ์ที่ว่า “หลักประกันสุขภาพคือรัฐสวัสดิการของคนไทย” นับตั้งแต่ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ นพ.วินัย สวัสดิวร รวม 2 ท่านเป็นเวลา 15 ปี และ 3.การที่ทุกภาคส่วนของสังคมร่วมกันปกป้องระบบหลักประกันสุขภาพจากการแทรกแซงและมุ่งทำให้ง่อยเปลี้ยเสียขาจากผู้ไม่หวังดี สายแพทย์พาณิชย์ สายธุรกิจยาข้ามชาติ สายอำนาจนิยมใน สธ.และกลุ่มที่เห็นว่าการดูแลคนจนนั้นเปลืองภาษีประเทศชาติ

แถลงการณ์ระบุว่า การล้มการเลือกเลขาธิการ สปสช. เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นบันไดก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการล้มบัตรทอง ตามด้วยการแก้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี 2545 ซึ่งมีประธานกรรมาธิการสาธารณสุขของ สนช. นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ เป็นหัวขบวน โดยเริ่มเห็นเนื้อหาว่าจะมีการทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพกลายเป็นระบบอนาถา สุขภาพจะไม่ใช่สิทธิสมกับชื่อบัตรทองอีกต่อไป ดูได้จาก

"1. จะให้แยกเงินเดือนออกจากงบบัตรทอง การรวมเงินเดือนตลอด 15 ปีตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพปี 2545 ทำให้เงินเดือนบุคลากรเป็นต้นทุนขององค์กร ได้เกิดการกระจายบุคลากรลงสู่ชนบทอย่างไม่เคยมีมาก่อน การจะแยกเงินเดือนกลับไปตั้งที่ สธ.จะทำให้คนย้ายกลับไปกระจุกที่โรงพยาบาลใหญ่ โรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลก็จะขาดบุคลากรอีกครั้ง มีบัตรทองแต่ไม่มีบุคลากรจะดูแลก็เท่ากับการล้มบัตรทองนั่นเอง

"2. การจะเปลี่ยนสัดส่วนคณะกรรมการบอร์ด โดยจะเขียนใหม่ให้มีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขถึง 7 คนในบอร์ดและให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นรองประธานคนที่ 1 ซึ่งเท่ากับการยึดบอร์ดนั่นเอง เมื่อยึดได้ทั้งเลขาธิการ ยึดได้ทั้งบอร์ด ระบบหลักประกันสุขภาพก็จะมาอยู่ในมือของสายอำนาจนิยมและการแพทย์พาณิชย์นิยมอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อยึดกุมแล้วก็เปลี่ยนสาระภายใน มีเพียงเปลือกนอกที่ยังเรียกบัตรทอง แต่เนื้อหาภายในนั้นเปลี่ยนไปจากการเป็นรัฐสวัสดิการเพื่อคนไทย นี่ก็คือการล้มบัตรทองนั่นเอง"

เครือข่ายการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนระบุต่อว่า ขออธิบายความมายังภาคประชาชน และชาวสาธารณสุข โดยเฉพาะชาวโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้ได้รับทราบถึงแผนการล้มหลักประกันสุขภาพดังกล่าว

"แผนการล้มระบบหลักประกันสุขภาพนั้นมีจริง ไม่ใช่ล้มแบบทำให้เลิกไป แต่ล้มด้วยการเปลี่ยนใส้ในตัดแขนตัดขาให้ง่อยเปลี้ยอ่อนแรง ซึ่งเราทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจหยุดหายนะของการทำลายระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้จงได้" แถลงการณ์ระบุ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net