เช้านี้ 'ปอน' ไปเยี่ยมเพื่อน แต่....!?!?

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

หฤษฎ์ มหาทน ผู้ต้องหาคดีแอดมินเพจ เรารักพลเอกประยุทธ์ และ ม. 112 อดีตผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนผู้ต้องขัง แดน 1 ที่เขาคุ้นเคยระหว่างที่ถูกกักขังนานเวลากว่า 2 เดือนในเรือนจำ แต่สิ่งที่เขาได้ค้นพบก็คือกฎเกณฑ์อันเข้มงวดมากกว่า กฎ 10 คน ในการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังที่สาธารณะได้รับรู้ว่าเป็นการจำกัดสิทธิที่รุนแรงมากแล้ว

วันนี้ผมแต่งตัวไปเรือนจำเพื่อจะไปเยี่ยมเพื่อนๆที่เคยอยู่ในคุกด้วยกัน แต่ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม ด้วยการบอกปัดง่ายๆ ว่า เยี่ยมไม่ได้ ให้เฉพาะคนที่นามสกุลเดียวกันเท่านั้น

ผมเข้าใจตอนนั้นเองที่นักโทษคนอื่นบอกว่า ไม่ได้เขียนสิบรายชื่อส่งให้ทางผู้คุมแบบนักโทษการเมือง ไม่ใช่ว่านักโทษการเมืองจะถูกบีบมากกว่านักโทษคนอื่น แต่เป็นเพราะนักโทษทั่วๆ ไปคนอื่น ไม่มีค่าพอแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะเสียเวลานั่งพิมพ์เอกสารรายชื่อญาติ

นักโทษเข้าและออกคุกวันหนึ่งเป็นร้อยๆ คน รัฐไม่อยากเสียกำลังคนมานั่งพิมพ์รายชื่อเป็นพันๆ รายชื่อต่อวัน เพราะจะอย่างไรสำหรับสังคม นักโทษก็เป็นปีศาจที่สมควรถูกกำจัดออกจากสังคมและลงทัณฑ์ให้เจ็บปวดอยู่แล้ว

ผู้คนคิดว่าทำไมต้องจ่ายภาษีเพื่อจ้างคนมานั่งทำเรื่องที่เปล่าประโยชน์แบบนี้ แล้วถ้าปล่อยให้ใครเยี่ยมก็ได้ ถ้ามันแห่กันมาเยี่ยมกันทุกวันเดี๋ยวก็มีปัญหาอีก

ผมนั่งร้องไห้อยู่บนรถแท็กซี่ เพราะผมเป็นผู้ต้องขัง ผมรู้ว่าความรู้สึกของคนที่อยู่ข้างในเป็นอย่างไร

คนที่มาเยี่ยมคือแสงสว่างเดียวของคนในคุก คือการจะได้รับรู้ข่าวสารของเพื่อนฝูง ครอบครัว คนรัก คือแหล่งที่มาของเสื้อผ้า สบู่ แปรงสีฟัน หนังสือ

ตอนที่ผมอยู่ในคุก สิ่งที่ผู้คนปรารถนามากที่สุดคือให้ญาติมาเยี่ยม นักโทษมักน้อยใจ คิดไปต่างๆนานา ว่าลูกเมียจะเป็นยังไง แฟนทิ้งไปแล้วหรือเปล่า ทำไมไม่มาเยี่ยม

เพื่อนนักโทษบอกว่า เขาไม่เคยเห็นใครที่ติดคุกกลับมาเยี่ยมเลย

ผมได้สัญญาไว้กับทุกคนไว้ว่า เมื่อได้ออกไป ผมจะกลับมาเยี่ยม จะส่งสบู่ แปรงสีฟันไปให้พี่น้องที่ไม่มีญาติจากต่างประเทศ จะส่งประมวลกฎหมายไปให้ทนาย

แต่ผมรักษาสัญญาไม่ได้

ผมพึ่งรู้ในวันนี้เอง ว่าทำไมมิตรสหายที่คนคุกเฝ้ารอถึงไม่มาเยี่ยมสักที

ผมร้องไห้

ผมคิดถึง เหล่านักโทษการเมือง ผู้ต้องหา112 การ์ด นปช. คนเสื้อแดง ลิเบอรัล ทั้งหลาย เรากินข้าวด้วยกัน เล่าประสบการณ์ของกันและกัน ถกเถียงเรื่องการเมืองกัน คอยเป็นห่วงและช่วยเหลือกัน คอยให้กำลังใจ แนวทางการต่อสู้ และทำให้เชื่อเสมอว่าประเทศไทยที่ดีขึ้นนั้นจะมาถึงในสักวันหนึ่ง

ผมคิดถึงมูฮัมหมัด พี่ชายของผม บ่าวของอัลเลาะห์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยพบ ผู้ที่คอยสอนให้ผมเกรงกลัวการกระทำบาป และจะไม่มีทางทำในสิ่งที่เลวร้าย เพราะพระผู้เป็นเจ้ายุติธรรมและจะให้เรารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปเสมอ

ผมคิดถึงมิชชันนารีนักกล้ามชาวแอฟริกาที่พระเจ้าส่งเข้ามาในคุกทั้งๆ ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ เพื่อคอยเรียกแกะที่หลงทางให้กลับเข้าฝูง ผู้ที่คอยบอกผมว่า “be strong brother Harit!” “be brave! god is with you!”  คิดถึงพี่น้องคริสเตียนหลากเชื้อชาติ ที่ร่วมอธิษฐานให้พระเจ้าช่วยเหลือผมด้วยภาษาที่ต่างกันไปมากมาย

ผมคิดถึงฆาตกรที่กลับใจ ผู้เป็นหลักฐานในถ้อยคำในพระคัมภีร์ด้วยตัวของตนเอง และทำให้ผมเชื่อว่าควรอภัยให้มนุษย์เสมอ เพื่อให้วันนึงเขาจะได้กลับใจได้

ผมคิดถึงลุงจอห์น นักธุรกิจ ที่คอยสอนประสบการณ์ทางธุรกิจ แนวคิดและมารยาทแบบชาวอังกฤษ ให้กับผม

ผมคิดถึงคนมือไว ผู้ติดนิสัยขโมยของมาจากความยากจนในวัยเด็ก นักเรียนภาษาอังกฤษของผม ผู้ทำให้ผมเข้าใจว่า การขาดโอกาสนั้นเลวร้ายขนาดไหน

ผมคิดถึงทนายโจร ที่ถ้าอารมณ์ดีก็จะเขียนเอกสาร ทำสำนวนช่วยเหลือผู้ต้องขังที่ไม่มีทนายให้หลุดจากคุก

ผมคิดถึงเหล่านักมวยไทย ที่เคยต่อยกันทุกเช้า

ผมคิดถึงเหล่านักโทษที่สร้างเสียงหัวเราะ และเสียงดนตรี ได้โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์

ฆาตกร ขโมยมืออาชีพ พ่อค้ายา คนต่อยตำรวจ คนฉ้อโกง หมีพรากผู้เยาว์ (Pedobear) ทั้งหมดที่อยู่ร่วมกันผม ทั้งหมด ทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์ทั้งนั้น

เพราะเดินทางที่ผิดพลาดบ้าง ถูกความโลภบังตาบ้าง ถูกโทสะครอบงำบ้าง ติดนิสัยบ้าง ยากจนขาดโอกาสศึกษาบ้าง อุบัติเหตุบ้าง ไม่รู้กฎหมายบ้าง โดนลูกหลงจากระบบกฎหมายที่เฮงซวยบ้าง เป็นเหยื่อของการเมืองบ้าง

แต่ทุกคนก็อยู่ที่นี่ และมีความทุกข์กันทั้งนั้น

ไม่มีใครไม่เคยทำบาป แต่ไม่มีใครเลยสักคนเดียวที่เป็นปีศาจ ทุกคนต่างมีส่วนที่ดี และมีทางที่จะกลับใจเปิดอยู่เสมอ

ทุกคนต้องได้รับผลของสิ่งที่ตัวเองทำอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครสมควรถูกซ้ำเติมให้ความเจ็บปวดที่มีมันเลวร้ายขึ้น

ตอนที่ผมได้ประกันตัว ผู้คุมส่วนมากขอร้องผมว่า ออกไปแล้วขอให้ลืมเรื่องราวทั้งหมดในเรือนจำ อย่าได้พูดถึง และไม่ต้องกลับมา

มีผู้คุมเพียงคนเดียวที่บอกผมว่า “ปอน ออกไปแล้ว เรื่องอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเรือนจำก็เล่าไปให้หมดเลยนะ ป๋าจะเกษียณอยู่แล้ว ใครย้ายป๋าก็ช่างแม่งมัน” ผมฟังแล้วก็หัวเราะ

ตอนแรกผมคิดอยู่ว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ เก็บเอาไว้ตอนที่คดีของผมจบก่อนน่าจะดีกว่า

แต่ตอนนี้ผมคิดว่าจะเปลี่ยนใจแล้ว

0000

 

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: เฟซบุ๊กแฟนเพจ Starless Night - Harit Mahaton

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท