Skip to main content
sharethis

สุภิญญาชี้คำสั่งหัวหน้า คสช. เรื่องให้อำนาจ กสทช.ปิดสื่อโดยไม่ต้องรับผิด ป้อง กสทช.มากเกินไป หวั่นขาดความระวังใช้อำนาจ เตือนจะส่งผลกระทบอุตสาหกรรมสื่อทั้งหมด ไม่ใช่แค่พีซทีวี เสนอสื่อต้องแสดงจุดยืนต่อคำสั่งนี้เพื่อถ่วงดุลอำนาจ กสทช. ด้านนักวิชาการนิเทศศาสตร์แนะ กสทช.ต้องระวังการใช้อำนาจมากขึ้น 

14 ก.ค. 2559 กรณีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 41/2559 เรื่องการกํากับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ตนเองไม่เคยเห็นด้วยกับการปิดสื่อที่เห็นต่างทางการเมืองและได้ทำหน้าที่ต่อสู้หลักการใช้อำนาจทางกฎหมายมาตลอด ให้สื่อไปสู้ต่อที่ศาลปกครองได้

"คำสั่งตามมาตรา 44 ของ คสช.ในวันนี้ เป็นการปกป้องการใช้อำนาจของ กสท./กสทช.(เสียงข้างมาก) จะกระทบกับภาพรวมเสรีภาพสื่อทั้งหมด ไม่ใช่แค่พีซทีวี" สุภิญญาระบุพร้อมเสนอว่า องค์กรสื่อ วิชาชีพสื่อ อุตสาหกรรมสื่อควรแสดงจุดยืนต่อคำสั่ง คสช.เพื่อการถ่วงดุลอำนาจของ กสทช. ให้สื่อใช้สิทธิสู้ในศาลต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นศาลปกครอง ศาลอาญา หรือ ศาลแพ่ง เพราะเป็นการต้องรับผิดชอบกับการใช้อำนาจของรัฐอย่างเป็นธรรมของรัฐ ตามกระบวนการ Rule of Law

สุภิญญา ชี้ว่า ปัจจุบัน กสทช.มีอำนาจกำกับสื่อได้อยู่แล้ว แต่ต้องใช้อำนาจอย่างรอบคอบ มีการถ่วงดุล ถ้ามี ม.44 มาปกป้องจะทำให้ กสทช.ใช้อำนาจได้แบบแรงขึ้นอีก คำสั่ง คสช. บอกว่า กสทช. ไม่ต้องรับผิดชอบทางอาญาหรือแพ่ง แต่ให้อำนาจเอกชนเรียกค่าเสียหายจากรัฐได้ เป็นการผลักภาระจาก กสทช.ไปให้เงินหลวง

"กรณี PeaceTV เป็นเพียงเคสตั้งต้น ที่ตอนนี้ศาลคุ้มครองอยู่ และ กสท. ใช้อำนาจสั่งปิดซ้ำ จากนี้รอผลจากศาลปกครองอีกรอบ ต่อไปอาจมีเคสอื่นๆ ตามมา" สุภิญญากล่าว

"ส่วนตัวดิฉันไม่มีเจตนาอยากจะเห็น เพื่อนๆ กสทช. เสียงข้างมากถูกฟ้องอาญาหรือแพ่งจากการทำงาน แต่การมีมาตรา 44 มาคุ้มครองจะทำให้ขาดความระวังใช้อำนาจ" สุภิญญากล่าวและว่า ผลกระทบจาก มาตรา 44 ครั้งนี้ ไม่ใช่ต่อช่อง PeaceTV เท่านั้น แต่จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมสื่อวิทยุและโทรทัศน์ทั้งหมด ที่ควรตื่นตัวและมีความเห็น

ด้าน มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้สัมภาษณ์ว่า คำสั่งดังกล่าวค่อนข้างจะสุ่มเสี่ยงกับการถูกมองว่าเป็นการคุกคามสื่อ เพราะฉะนั้นแล้วผู้ที่มีอำนาจในการใช้คำสั่งดังกล่าว ซึ่งก็คือ กสทช.จะต้องระมัดระวัง คิดพิจารณาให้ถี่ถ้วนในการใช้อำนาจ คำนึงถึงผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจจากคำสั่งดังกล่าว เพราะการใช้อำนาจจากคำสั่งดังกล่าวอาจจะเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อ

มานะ ยังกล่าวอีกว่า สื่อมวลชนควรจะทำหน้าที่ของตนเองต่อไป นำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างที่ควรจะนำเสนออยู่แล้ว คำสั่งดังกล่าวอาจจะไม่เกี่ยวข้องอะไรเท่าใดนัก แม้ว่าสื่อมวลชนอาจจะไม่สบายใจกับคำสั่งที่ออกมา ส่วนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ต้องติดตามต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีแน่นอน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net