กลุ่มนักศึกษาผู้จัดงานเสวนา “พูดเพื่อเสรีภาพ ร่างรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน” ชี้แจงหลัง มหาวิทยาลัยขอนแก่น แจ้งความข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ เผยได้รับการอนุญาตแล้ว โชว์บิลจ่ายค่ามัดจำใช้อาคาร แต่ถูกมหาวิทยาลัยกลับคำ ห้ามใช้สถานที่

สืบเนื่องจากกรณีการจัดงานเสวนา “พูดเพื่อเสรีภาพ ร่างรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน” ที่อาคารจตุรมุข คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นการร่วมจัดงานโดยกลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่ และขบวนการประชาธิปไตยใหม่ภาคอีสาน เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้าวันจัดงานหนึ่งวันได้มีการเข้ามาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้ามาขอความร่วมมือให้ยุติการจัดกิจกรรมดังกล่าว แต่พูดจัดยังยืนยันที่จะจัดกิจกรรมต่อ

จากนั้นทางมหาวิทยาลัยได้ทำการตัดน้ำ ตัดไฟ เพื่อเป็นการยืนยันว่าทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้จัดใช้สถานที่สำหรับกรจัดงานดังกล่าว ต่อมาในช่วงค่ำของวันที่ 30 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปยังเจ้าของเก้าอี้โต๊ะจีน ซึ่งทางกลุ่มผู้จัดได้เช่ามาสำหรับเป็นที่นั่งของผู้เข้าร่วม ซึ่งส่วนมากเป็นชาวบ้านในพื้นที่ภาคอีสาน และส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้เจ้าของเก้าโต๊ะจีนเรียกคืนเก้าอี้ทุกตัว ที่กลุ่มผู้จัดงานได้เช่าไว้

ต่อมาในเช้าวันที่ 31 ก.ค. เวลาประมาณ 09.30 น. รถขนเครื่องขยายเสียง และเครื่องปั่นไฟฟ้า ได้เดินทางมาถึงอาคารจตุรมุข เพื่อนำเครื่องขยายเสียงมาส่ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย ไม่อนุญาตให้มีการนำของดังกล่าวลง จนกระทั่ง 11.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย ราว 30 นาย เข้าระงับการจัดงานเสวนาพูดเพื่อเสรีภาพ รัฐธรรมนูญกับคนอีสาน โดยเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยยืนยันว่าไม่อนุญาตให้พื้นที่จัดงานโดยเด็ดขาด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าการจัดงานดังกล่าวเข้าข่ายการชุมนุมทางการ เมืองเกิน 5 คน ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนคำ สั่งหัวหน้า คสช. นอกจากนี้เจ้าหน้าตำรวจและทหารได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ของมหาวิทยาลัย ยึดเอกสารทั้งหมดของกลุ่ม ซึ่งเป็นเอกสารของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และรื้อฉากหลังบนเวที โดยเจ้าหน้าตำรวจชี้แจงว่าจะนำไปตรวจสอบเพื่อที่จะดำเนินคดีต่อไป

ขณะเดียวกัน ไทยรัฐออนไลน์ ได้รายงานว่า ผศ.ดร.สมพงษ์ สิทธิพรหม ผู้ช่วยอธิการบดี ม.ขอนแก่น (ฝ่ายรักษาความปลอดภัย) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า คณะเกษตรศาสตร์ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรม แต่ยังคงมีการฝ่าฝืนและจัดกิจกรรมตามเดิม ซึ่งถือเป็นการบุกรุกสถานที่ราชการ และขณะนี้เจ้าของพื้นที่ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้แล้วนั้น

ต่อกรณีที่เกิดขึ้นทางกลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่ได้ออกมาชี้แจงผ่าน เฟซบุ๊กแฟนเพจกลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่ โดยระบุว่า ทางทีมจัดงานได้มีการยื่นขออนุญาตใช้สถานที่ในวันที่ 29 ก.ค. 2559 และได้มีการตกลงจ่ายค่ามัดจำสถานที่เป็นเงินทั้งสิ้น 3,000 บาทถ้วน โดยเจ้าหน้าที่ที่รับมัดจำ ยังได้ย้ำว่า เมื่อจัดงานเสร็จให้ทำความสะอาดพื้นที่ให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้รับมัดจำคืน โดยมีหลักฐานคือบิลใบเสร็จค่ามัดจำที่มีลายเซ็นต์ของเจ้าหน้าที่ที่รับมัดจำไว้ ทางทีมจัดงานจึงถือว่า การรับเงินค่ามัดจำและตกลงการใช้สถานที่ถือว่าได้เริ่มต้นตั้งแต่ ณ บัดนั้น ไม่ได้มีการเข้าบุกรุกหรือฝ่าฝืนใช้สถานที่ก่อนแต่ประการใด

สิ่งที่เป็นความเคลือบแคลงสงสัยคือ ทำไมถึงมาบอกยกเลิกการให้ใช้สถานที่ในระยะจัดงานอันใกล้ ซึ่งทางทีมจัดงานได้มีการจัดเตรียมสถานที่ เช่าเครื่องเสียง เช่าเก้าอี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้จัด
 

อีกประการหนึ่ง ทางคณะผู้จัดงาน ได้ยืนยันว่า กลุ่มนักศึกษาที่ไปขอใช้สถานที่ในการจัดงานทุกคนคือ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ต่อข้อกล่าวหาว่าบุกรุกสถานที่ราชการคำถามสำคัญคือ ผู้จัดคือนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนี้ เหตุใดไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัย ในเมื่อค่าเทอมทุกบาททุกสตางค์ ผู้จัดทุกคนก็ร่วมจ่ายเพื่อมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ข้อกล่าวหาว่าบุกรุก จึงเหมือนกับการมาชี้หน้าผู้จัดว่า " บุกรุกบ้านของตนเอง "

ทั้งนี้ในแถลงการณ์ย้ำด้วยว่า “ท้ายสุดแล้ว พวกเราทุกคนเคารพในทุกเสียงที่แตกต่าง เราขอแค่เพียงพื้นที่ให้เสียงของพวกเราได้พูดบ้าง พื้นที่ที่ยอมร่วมรับฟังกัน ไม่ใช่เริ่มต้นด้วยการ ปิดเสียง ปิดปาก และห้ามเราพูด คนรุ่นใหม่อย่างพวกเรา มีอนาคตต่อไปอีกข้างหน้า เราย่อมต้องการเห็นโลกที่พวกเราอยู่ มีความรัก มีเสรี เคารพในความเป็นมนุษย์และการแสดงออกของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราไม่มีวันที่จะทำลายโลกที่เราใฝ่ฝันแน่นอน”