3 ส.ค. 2559 พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)เปิดเผยว่า มีความกังวลว่าจะมีการบิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดถึงผลการทำประชามติ หากรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะมีการแปลความหมายของผลประชามติในทางที่ไม่ถูกต้อง ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันชัดเจนว่าหากประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญก็จะเดินหน้าตามโรดแมปที่ได้วางไว้ แต่หากไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เพื่อกำหนดแนวทางให้มีรัฐธรรมนูญ และเกิดการเลือกตั้งตามโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางไว้  ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และคสช. จะตัดสินใจร่วมกัน  โดยส่วนตัวเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีทางออกอยู่ในใจ แต่ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกัน เพราะต้องรอผลประชามติ ซึ่งเป็นการตัดสินใจของประชาชนก่อน  และในฐานะที่เป็นที่ปรึกษา คสช. ยังไม่ได้หารือถึงวิธีการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการทำประชามติ

ประธาน สนช. กล่าวว่า ในส่วนของ สนช. ได้อธิบายคำถามพ่วงหรือคำถามเพิ่มเติมต่อประชาชน และเชื่อว่าประชาชนที่ได้รับฟังการชี้แจงจะเข้าใจ พร้อมกล่าวเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ 7 สิงหาคมนี้   โดยตัดสินใจบนพื้นฐานข้อเท็จจริง

คสช.ยันไม่พบสัญญาณป่วน พ่นสีใต้เรื่องการเมือง

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ยืนยันว่า ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนลงประชามติ ยังไม่มีสัญญาณความวุ่นวาย ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่หากจะมีก็เป็นส่วนน้อยที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2559 หากเจ้าหน้าที่พบ จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

ขณะที่ พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงการพ่นสีสเปรย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีข้อความเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ได้รับรายงานจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าว่าพบในพื้นที่ จ.ปัตตานี มากที่สุด รองลงมา คือ จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส แต่ถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยการทำประชามติของกระทรวงมหาดไทยเข้าไปตรวจสอบ ส่วน กอ.รมน.ทำหน้าที่ตามปกติ พร้อมรับคำสั่งจากรัฐบาลและ กกต. หากมีการร้องขอเข้ามา ทั้งนี้การข่าวยังไม่พบแนวโน้มการก่อเหตุรุนแรงในช่วงสุดท้ายของการทำประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ แม้แต่ภาคเหนือและภาคอีสาน

กกต. พร้อมเต็มที่

บุญส่ง น้อยโสภณ  กกต. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกกต.เตรียมความพร้อมสำหรับการออกเสียงประชามติ 7 ส.ค. เต็มที่ และมีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากการที่ กกต.ทั่วประเทศ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประชาสัมพันธ์ และการจัดบิ๊กเดย์วันที่ 4 ส.ค.นี้ ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์อีกช่องทางหนึ่ง ทำให้เชื่อว่าผู้มีสิทธิจะมาออกเสียงประชามติใกล้เคียงกับเป้าที่วางไว้

เรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย