ทักษิณ ชินวัตร วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญที่จะลงประชามติ 7 ส.ค. ว่า "เป็นความเขลา" เชื่อแม้จะได้รัฐบาลใหม่หลังใช้ รธน. แต่ก็จะบริหารประเทศได้อย่างลำบากเพราะเจอเงื่อนไขใน รธน. ขณะที่ในการรณรงค์ประชามติเมื่อวันพุธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เขียนข้อความด้วยลายมือถึงประชาชนว่า อย่ากลัวผีที่มองไม่เห็นตัวในการทำประชามติ แต่ให้กลัวผีที่มาหลอกหลอนก่อนหน้านี้ ขอให้คนไทยช่วยกันร่ายคาถาป้องกันผีในอนาคต

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี (ที่มา: แฟ้มภาพ/เฟซบุ๊คทักษิณ ชินวัตร และ เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

5 ส.ค. 2559 ทักษิณ ชินวัตร วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะมีการลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. นี้ โดยระบุว่า "เป็นความเขลา" และจะทำให้ในอนาคตเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลเลือกตั้งจะปกครองประเทศ

โดยในแถลงการณ์ส่วนตัวที่เขาส่งทางอีเมล์ให้รอยเตอร์เมื่อคืนวันที่ 4 ส.ค. ดังกล่าว ทักษิณยังวิจารณ์อีกด้วยว่า "ผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อ 'ความต่อเนื่อง' ในการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จของผู้ก่อรัฐประหารชุดปัจจุบัน แม้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้จะประกาศใช้แล้วก็ตาม"

"ผมทำนายว่า แม้รัฐบาลใหม่จะได้รับการรับรองจากระบอบทหารในปัจจุบัน แต่ก็จะพบว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบริหารเศรษฐกิจไทย หรือบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขที่ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ"

ในการออกเสียงประชามติ 7 สิงหาคมนี้ ทักษิณ ยังคงมีชื่อเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติลำดับที่ 534 ของหน่วยออกเสียงที่ 15 หน่วยย่อยที่ 1 โรงเรียนพิมลวิทย์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ขณะที่เขาเดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่ 31 กรกฎาคม 2551 โดยไม่กลับมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีประมูลซื้อที่ดินริมถนนเทียนร่วมมิตร ย่านรัชดาภิเษก จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ที่ตัดสินเมื่อ 21 ตุลาคม 2551 ซึ่งตัดสินจำคุก 2 ปี

ขณะเดียวกัน วานนี้ (4 ส.ค.) ในเว็บไซต์ครอบครัวข่าว 3 ระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งจัด "บิ๊กเดย์" ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยจัดกิจกรรมพร้อมกันทั้งที่ลานพระบรมรูปทรงม้า กทม. และอีก 6 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ ทั้งเชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น ชลบุรี สงขลา และปัตตานี โดยมีรายงานด้วยว่า สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. เดินทางไปรณรงค์เองที่ จ.ปัตตานี

ขณะที่ที่นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้เขียนข้อความด้วยลายมือ ขอให้ประชาชนอย่างเพิ่งกลัวผีที่มองไม่เห็นตัวในการทำประชามติ แต่ให้กลัวผีที่มาหลอกหลอนก่อนหน้า จึงขอให้คนไทยช่วยกันร่ายคาถาป้องกันผีในอนาคตให้ได้ ด้วยการเข้าใจ ร่วมมือ และก้าวไปพร้อมกัน สู่การปฏิรูปประเทศต่อไป

จากข้อมูลของ กกต. ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติในครั้งนี้มีจำนวนทั้งหมด 50,585,118 คน โดยแยกเป็นภาคกลาง จำนวน 17,704,137 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 17,009,430 คน ภาคเหนือ จำนวน 9,043,219 คน และภาคใต้ จำนวน 6,828,332 คน โดยจังหวัดที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงมากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 4,483,075 คน รองลงมาคือ จ.นครราชสีมา จำนวน 2,054,425 คน