เปิดใจโตโต้ ปิยะรัฐ จงเทพ ทำไมฉีกบัตรประชามติ ยังรอสอบสวน คาดโดน 3 ข้อหา พ.ร.บ.ประชามติ, ทำลายเอกสารราชการ, ทำให้เสียทรัพย์

8 ส.ค.2559 เวลา14.00 น. ที่ สน.บางนา โตโต้ ปิยะรัฐ จงเทพ นายกสมาคมเพื่อเพื่อน FFAและอดีตนักศึกษาจากศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย หรือ ศนปท. ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีการเมือง และอดีต ให้สัมภาษณ์ว่า ถูกตำรวจควบคุมตัวจากหน่วยออกเสียงมายัง สน.และทำประวัติแล้ว ขณะนี้กำลังรอทนายเพื่อเริ่มต้นทำงานสอบสวน เบื้องต้นทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า น่าจะโดนแจ้งข้อ 3 ข้อหาหลัก คือ ม.59 พ.ร.บ.ประชามติ , ความผิดฐานทำลายเอกสารราชการ และทำให้เสียทรัพย์ ของประมวลกฎหมายอาญา

ปิยะรัฐ กล่าวว่า เขาทราบดีว่าสิ่งที่ทำนั้นผิดกฎหมายและยินดีรับผิดชอบเข้าสู่กระบวนการ ยุติธรรมและคาดหวังว่าจะได้ต่อสู้คดีเกี่ยวกับมูลเหตุจูงใจที่ทำ เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับกระบวนการทำประชามติครั้งนี้ตั้งแต่ต้นรวมถึงเป้า หมายที่คสช.จะนำเอาประชามติครั้งนี้ไปสร้างความชอบธรรมในการกำหนดกติกา ประเทศ หรือแม้ผลจะออกมาว่าประชาชนไม่รับร่างนี้ คสช.ก็สามารถนำฉบับอื่นๆ มาบังคับใช้ได้อยู่ดี

“จริงๆ ตอนแรกผมก็จะโหวตโน ตอนหลังเปลี่ยนใจต้องการจะบอยคอต แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจฉีกบัตร เพราะอยากให้เป็นหมุดหมายทางการเมือง หรือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่อไปในอนาคตถึงความไม่ชอบธรรมของร่างรัฐ ธรรมนูญนี้ อย่างน้อยก็มีหนึ่งคนที่ไม่เห็นชอบ และประวัติศาสตร์ต้องบันทึกไว้” ปิยะรัฐกล่าว

เมื่อถามว่าการกระทำนี้ได้แรงบันดาลใจจากไชยยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่เคยฉีกบัตรเลือกตั้งเมื่อ 2 เม.ย.2549 หรือไม่ ปิยะรัฐกล่าวว่า ไม่ได้ต้องการจะทำแบบเขาเนื่องจากตัวเองไม่ใช่คนกล้าหาญขนาดนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าการฉีกบัตรของไชยยันต์ในครั้งนั้นถูกอ้างถึงเพื่อทำให้ ความชอบธรรมของการเลือกตั้งในครั้งนั้นลดลง เขาจึงต้องการที่จะเห็นความชอบธรรมในการทำประชามติครั้งนี้ลดลงด้วยเช่น เดียวกัน และยินดีรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ

ปิยะรัฐ ยังกล่าวอีกว่า เขาคาดหวังว่าจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพียง ม.59 ของพ.ร.บ.ประชามติ แต่หากตำรวจแจ้งข้อหาอาญาในเรื่องทำให้เสียทรัพย์ด้วย ก็อยากให้สาธารณชนพิจารณาว่า สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้งออกมาทุ่มกล่องใส่บัตรแล้วทำให้กล่องเสียหายเช่นเดียว กัน ก็น่าจะต้องถูกแจ้งข้อหาด้วย

นอกจากนี้ตำรวจยังต้องการสอบปากคำเพื่อนของปิยะรัฐ 2 คนที่ติดตามจากหน่วยออกเสียงไปยังสน.ด้วย ซึ่งปิยะรัฐกล่าวว่า เขากระทำผิดเพียงคนเดียวและไม่ต้องการให้เพื่อนมาเกี่ยวข้อง

ด้านสมชัย ศรีสุทธิยากร แถลงข่าวตามรายงานที่ปรากฏในเพจ BBC Thai ว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กล่าวถึงกรณีของนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นกรณีฉีกบัตรโดยเจตนา ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการแสดงออกทางการเมือง และเห็นว่ามีแนวทางต่อสู้คดีที่ทำให้หลุดพ้นจากการลงโทษได้ ซึ่งอาจจะเป็นการเลียนแบบอาจารย์ท่านหนึ่งที่เคยฉีกบัตรเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2549 และศาลชั้นต้นไม่ลงโทษ แต่ในชั้นฎีกานั้นมีการลงโทษ โดยเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2555 ศาลอุทธรณ์ ลงโทษจำคุกสองเดือน ปรับสองพันบาท และเนื่องจากจำเลยเป็นผู้มีความรู้ความสามารถจึงให้รอลงโทษจำคุกไว้ 1 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี และในวันที่ 3 มิ.ย. 2557 ศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ จึงขอย้ำว่าแนวทางของศาลฎีกานั้นมีการลงโทษผู้กระทำการฉีกบัตรโดยเจตนา จึงไม่อยากให้เข้าใจผิด

ล่าสุด เวลา 14.20 น. ทนายความเดินทางถึงสน.บางนาและเข้าห้องสอบสวนพร้อมกับปิยะรัฐแล้ว

มาตรา 59 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ระบุว่า ผู้ใดทําลายบัตรที่มีไว้สําหรับการออกเสียงโดยไม่มีอํานาจกระทําได้ หรือจงใจกระทําการด้วยประการใด ๆ ให้บัตรออกเสียงชํารุด หรือเสียหาย หรือกระทําการด้วยประการใดๆ แก่บัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ถ้าผู้กระทําการตามวรรคหนึ่งเป็นเจ้าพนักงานหรือเป็นผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับ การดําเนินการออกเสียงต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท