Skip to main content
sharethis

12 ส.ค. 2559 จากเหตุการณ์ความรุนแรงในย่านเศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยวหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 11 ต่อเนื่องวันที่12 ส.ค. นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์ ประณามผู้ก่อเหตุดังกล่าว โดยระบุว่าการที่ผู้ก่อความไม่สงบใช้วัตถุระเบิด รวมถึงลอบวางเพลิงในยามวิกาล เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงสูงสุด และโหดร้ายทารุณไร้มนุษยธรรม เป็นการสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน ทำลายความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย หากเหตุการณ์เหล่านี้ยังดำเนินต่อไป คาดว่าจะขยายพื้นที่ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น กสม.เรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุยุติการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที ไม่ว่าจะมีแรงจูงใจในการก่อเหตุใด ๆ ก็ตาม ขณะที่สื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์ รวมถึงประชาชนผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะต้องยุติการเผยแพร่ภาพศพผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บในลักษณะต่าง ๆ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

แอมเนสตี้ฯ ชี้เป็นความเลวร้าย-ไม่เคารพสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่

เช่นเดียวกับ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้เหตุระเบิดที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งโจมตีแหล่งท่องเที่ยวในภาคใต้ของไทยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ถือเป็นการใช้ความรุนแรงที่เลวร้าย ควรต้องมีการสอบสวนอย่างเต็มที่ และนำตัวผู้รับผิดชอบเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

จากเหตุระเบิดสี่ครั้งในเขตเทศบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และหลายจุดในจ.ภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งในจังหวัดตรังทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสี่คนและได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน
 
แชมพา พาเทล (Champa Patel) ที่ปรึกษาอาวุโสงานวิจัย สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่าไม่มีความชอบธรรมใดๆ ในการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายและกระทำด้วยความจงใจเช่นนี้ถือเป็นการไม่คำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะมีชีวิต การใช้ความรุนแรงเช่นนี้แสดงถึงการไม่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่ง
 
“ต้องมีการนำตัวผู้รับผิดชอบเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและมีการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องทางการไทยให้มีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม สอดคล้องกับพันธกรณีที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” แชมพา พาเทล กล่าว พร้อมระบุว่า จนถึงปัจจุบันยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีเหล่านี้
 

เพื่อไทยแถลงประณาม พร้อมแสดงความเสียใจ

พรรคเพื่อไทยยังได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีเหตุระเบิดครั้งนี้ เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับความเสียหายทางด้านทรัพย์สิน ทั้งยังได้ประณามผู้ที่ใช้ความรุนแรง และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พรรคเพื่อไทยยังระบุว่าจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมฝ่าฟันปัญหาอย่างมีสติ รอบคอบ ให้ผ่านพ้นปัญหาไปด้วยดี

อียู-ทูตสหรัฐฯ แสดงความเสียใจ

สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ออกแถลงการณ์โดยโฆษกของ เฟเดริกา โมเกรินี ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปและรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรื่องการโจมตีด้วยระเบิดในประเทศไทย ระบุว่า เมืองหลายแห่งในประเทศไทยตกเป็นเป้าหมายในการวางระเบิดหลายจุด ทำให้มีประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวเสียชีวิตและบาดเจ็บ
 
สหภาพยุโรปขอแสดงความเห็นใจต่อประชาชนคนไทย และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งแก่ครอบครัวของผู้ประสบภัย และขอให้ผู้บาดเจ็บฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว คณะผู้แทนสหภาพยุโรปในกรุงเทพ พร้อมที่จะช่วยเหลือพลเมืองอียูที่ได้รับผล กระทบจากการโจมตี และคงประสานงานกับสถานทูตของประเทศสมาชิกในกลุ่มอียูในประเทศไทย
 
ขณะที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'U.S. Embassy Bangkok' ของสถานเอกอัครราชทูต สหรัฐอเมริกา ประจําประเทศไทย ได้โพสต์ด้วยว่า เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดในประเทศไทย ขอส่งความห่วงใยและเห็นใจยิ่งมายังผู้ประสบภัยและครอบครัว
 

สถานทูตต่างประเทศหลายแห่งเตือนพลเมืองเลี่ยงเดินทางไปภาคใต้

เว็บไซต์สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเตือนให้พลเมืองระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ที่มีฝูงชน โดยระบุว่านอกจากจะเกิดระเบิดที่หัวหินและสุราษฎร์ธานีแล้ว กระทรวงต่างประเทศอังกฤษอยู่ระหว่างตรวจสอบรายงานเหตุการณ์ที่ภูเก็ต

เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศอังกฤษยังคงข้อมูลที่ชี้ว่ามีโอกาสที่จะเกิดภัยก่อการร้ายสูง เนื่องจากเกิดเหตุการณ์หลายครั้งในกรุงเทพฯ รวมทั้งเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 17ส.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย รวมทั้งชาวอังกฤษ

ด้านเฟซบุ๊กของสถานทูตแคนาดาให้ข้อมูลเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปจังหวัดภาคใต้ รวมทั้งหัวหินและภูเก็ต และให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝูงชนเช่นกัน ขณะที่เฟซบุ๊กของสถานทูตออสเตรเลียเตือนให้ระมัดระวังความปลอดภัยและติดตามข่าวสาร ฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งหลีกเลี่ยงพื้นที่หัวหิน สุราษฎร์ธานี ป่าตอง ภูเก็ต

 
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net