ทหารเตรียมส่งผู้ต้องหาคดีเผาโลตัสนครศรีฯ ให้ตำรวจ ศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย

16 ส.ค. 2559 ความคืบหน้ากรณีมีการก่อเหตุลอบวางเพลิงห้างเทสโก้โลตัส จ.นครศรีธรรมราช วันนี้(16 ส.ค.59) เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของห้างเร่งเตรียมพร้อมเป็นวันสุดท้าย หลังจากเลื่อนการเปิดเป็นวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) เวลา 09.09 น.เนื่องจากการเตรียมสินค้าทุกชนิดใหม่ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสินค้าเดิมในช่วงเพลิงไหม้นั้น ได้ถูกนำไปทำลายทิ้งทั้งหมด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้บริโภค

ส่วนที่ มณฑลทหารบกที่ 41 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารยังคงคุมตัว ศักรินทร์ คฤหัส ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในคดีวางเพลิงห้างเทสโก้โลตัส นครศรีธรรมราช ไว้ที่นี่ ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายทหารพระธรรมนูญ มณฑลทหารบกที่ 41 ได้เข้าสอบสวน ศักรินทร์ อีกครั้ง ซึ่งถูกระบุเป็นการสอบสวนของฝ่ายทหารเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อที่จะยุติการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการคุมตัว ศักรินทร์ และก็เตรียมที่จะส่งตัวให้ฝ่ายตำรวจ รับไปดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาช่องทางปกติ ซึ่งหลังจากพนักงานสอบสวนรับตัวมาแล้วนั้น จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวน และขออำนาจศาลฝากขัง โดยผู้ต้องหามีสิทธิ์ในการยื่นขอประกันตัวเพื่อสู้คดี

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนั้นมีรายงานว่า ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติหมายจับกุมผู้ที่ร่วมก่อเหตุวางเพลิงห้างโลตัส นครศรีธรรมราชเพิ่มอีก 2 ราย แล้ว โดยอนุมัติรูปพรรณตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เชี่ยวชาญการสืบสวนด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร และภาพกล้องวงจรปิดจากกองกำกับการ 3 กองปราบปราม และกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ได้เข้าสืบสวนขยายผลพบว่ามีผู้ที่มีความเชื่อมโยงอยู่ในข่ายต้องสงสัยมากกว่า 20 ราย อย่างไรก็ตาม การสืบสวนเชิงลึกพบว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุใน 7 จังหวัดนั้น ได้รับการว่าจ้างให้ก่อเหตุนอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
 

ผบ.ทบ.มั่นใจจับผู้ก่อเหตุได้

พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อย หลังเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้หลายจุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ว่า กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ปฏิบัติงานตามปกติ เพราะมีหน้าที่ทำให้สภาวะแวดล้อมของประเทศนี้เรียบร้อย เพื่อให้รัฐบาลบริหารประเทศได้อย่างสะดวก อะไรที่มาขัดขวาง ทำให้เกิดความไม่สงบสุข หรือทำให้ประชาชนเดือนร้อน กกล.รส.จะเข้าไปดำเนินการทันที เพราะมีการวางกำลังและปรับโครงสร้างใหม่เพื่อรองรับเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่แล้ว
 
พล.อ.ธีรชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย เป็นเรื่องของตำรวจ ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก และขอให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ ช่วยเจ้าหน้าที่สอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เช่น ของที่ไม่ควรอยู่ คนที่ไม่เคยมา หรือการสวมหมวก สวมแว่นตาเข้าไปในอาคารต่าง ๆ
 
“เราต้องร่วมใจกันเป็นหนึ่ง เพื่อให้ประเทศนี้และลูกหลานเรามีความสงบสุขต่อไป อย่าให้ใครคนหนึ่งคนใดมาทำให้ประเทศนี้ไม่สงบสุข มั่นใจว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้” พล.อ.ธีรชัย กล่าว
 

ผบ.ตร.เผยคดีคืบหน้า70%

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ระบุความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่พบจากจุดเกิดเหตุและวัตถุระเบิดที่ไม่ทำงาน และได้รับรายงานว่าวัตถุระเบิดที่ไม่ทำงานพบว่ามีลายนิ้วมือแฝง ซึ่งขณะนี้ทราบมีการตรวจสอบเสร็จแล้วบางส่วนและมีการส่งกลับไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการชายแดนใต้ หรือ ศชต. ที่มีการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างดี ซึ่งง่ายต่อการสืบค้น หากไม่พบข้อมูลที่ตรงกับฐานข้อมูลกับ ศชต. ก็จะดำเนินการเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอื่นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมี ส่วนกระแสข่าวที่มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัด (บีอาร์เอ็น) ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฏหมาย แต่ยืนยันว่าขณะนี้ภาพรวมคดีมีการดำเนินการมากมากกว่าร้อยละ 70 แล้ว
 

เตรียมส่งดีเอ็นเอจากเหตุระเบิด7จุดเทียบผู้ก่อเหตุภาคใต้

พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลางหรือ (พฐก.) ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบวัตถุพยานที่เก็บได้จากเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ทั้งระเบิดที่มีการทำงานสมบูรณ์และเก็บกู้ได้ก่อน พบว่ามีลายนิ้วมือแฝงรวมถึงดีเอ็นเอเล็กน้อย จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าสามารถนำมาตรวจพิสจน์เทียบเคียงกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่มีได้ เบื้องต้นจะมีการนำไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลประวัติอาชญากรและดีเอ็นเอหรือลายนิ้วมือในฐานข้อมูลของกลุ่มผู้ก่อเหตุในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คาดว่าจะสามารถดำเนินการตรวจเสร็จสิ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้ เนื่องจากหลักฐานมีจำนวนมากและในบางชิ้นต้องใช้เทคนิคในการตรวจสอบ

 

ที่มา สำนักข่าวไทย และสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท