กลุ่มกบฏ FARC สู้รบกับรัฐบาลโคลอมเบียมาตั้งแต่ปี 2507 เมื่อไม่นานนี้พวกเขาสามารถเจรจาบรรลุข้อตกลงสันติภาพทั้งสองฝ่ายได้ จนมีประชาชนหลายร้อยคนออกมาชชุมนุมแสดงความยินดี อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องให้ประชาชนร่วมลงคะแนนว่าจะรับรองข้อตกลงสันติภาพนี้หรือไม่ ในเดือน ต.ค.นี้ด้วย
บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า ชาวโคลอมเบียหลายร้อยคนชุมนุมเฉลิมฉลองการที่รัฐบาลโคลอมเบียสามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มกองกำลังปฏิวัติติดอาวุธของโคลอมเบีย หรือ กลุ่มกบฏ FARC ได้เป็นผลสำเร็จ หลังจากที่มีความขัดแย้งกันเป็นเวลานานกว่า 52 ปี นับตั้งแต่ปี 2507 จนปัจจุบัน
ความขัดแย้งระหว่าง FARC กับรัฐบาลโคลอมเบียส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 260,000 รายและมีผู้คนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่ มีการประกาศเรื่องการบรรลุข้อตกลงจากกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่มีกระบวนการเจรจามาเป็นเวลานานเกือบ 4 ปี ฮวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีโคลอมเบียกล่าวว่าการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ถือเป็น "จุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดความทุกข์ยาก ความเจ็บปวด และโศกนาฏกรรมของสงคราม"
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ตกลงร่วมกันว่าจะเล็งเห็นปัญหาการกีดกันทางสังคม ให้ความเป็นธรรมต่อเหยื่อของความขัดแย้ง และสร้างสันติภาพที่มั่นคงยั่งยืน
ฮุมแบร์โต เดอ ลา คัลเล หัวหน้าตัวแทนเจรจาของทางการโคลอมเบียร่วมลงนามกับหัวหน้าทีมเจรจาฝ่าย FARC ที่ชื่อ อีวาน มาร์เกส เดอ ลา ตัลเล กล่าวว่า "สงครามจบแล้ว แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ด้วย ข้อตกลงนี้เปิดประตูสู่สังคมที่ครอบคลุมมีส่วนร่วมมากขึ้น" ทางด้านอิวาน มาร์เกส กล่าวว่าทั้ง FARC และรัฐบาลโคลอมเบียต่างก็เอาชนะ "การต่อสู้ที่งดงามที่สุดยิ่งกว่าการต่อสู้ใดๆ คือการนำสันติภาพมาให้โคลอมเบีย"
ผู้ที่ชุมนุมแสดงการเฉลิมฉลองพากันโบกธงและส่งเสียงเชียร์ขณะชุมนมในโบโกตา ส่วนใหญ่สวมชุดสีขาว ชายอายุ 57 ปีที่ชื่อออร์แลนโด เกวารา กล่าวว่า เขาสามารถนอนตายตาหลับได้แล้วเมื่อได้เห็นประเทศของเขาปลอดความรุนแรงและลูกหลานของพวกเขามีอนาคต
บีบีซีระบุว่า สื่อรายวันใหญ่ๆ ส่วนมากในโคลอมเบียเขียนบทบรรณาธิการในเชิงสนับสนุนการบรรลุข้อตกลงสันติภาพในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสายขวา-กลาง อย่างเอล เอสเปคทาดอร์ ที่ออกไปในทางชื่นชมรัฐบาลโคอมเบีย สื่อซ้าย-กลางอย่าง เอล เฮรัลโด ที่ระบุว่าการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้เป็น "ก้าวประวัติศาสตร์" ที่เป็นโอกาสในการ "เปลี่ยนแปลงประเทศ"
อดีตประธานาธิบดีโคลอมเบีย 3 คน แสดงความคิดเห็นต่อการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ต่างกัน อัลวาโร อูริบเบ วิจารณ์ว่าข้อตกลงสันติภาพนี้ส่งเสริมให้มี "การไม่ต้องรับผิด" และแสดงความสงสัยว่ากลุ่มกบฏที่ได้เงินสนับสนุนส่วนใหญ่จากการลอบค้าโคเคนจะถูกดำเนินคดีในข้อหายาเสพติดหรือไม่ อดีตประธานาธิบดีอีกคน คือ อังเดรส ปาสตรานา ผู้ที่เคยพยายามเจรจาสันติภาพกับ FARC มาก่อนแต่ล้มเหลววิจารณ์ว่าข้อตกลงนี้เป็น "การรัฐประหารโค่นล้มความยุติธรรม" แต่อดีตประธานาธิบดี เออร์เนสโต แซมเปร์ ที่ในตอนนี้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหภาพประชาชาติอเมริกาใต้กล่าวชื่นชมว่าข้อตกลลงสันติภาพในครั้งนี้เป็น "ข่าวดี" ทั้งสำหรับโคลอมเบียเองและทั้งสำหรับภูมิภาคอเมริกาใต้ทั้งหมด
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐอเมริกาโทรศัพท์หาประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส แสดงความยินดีที่การเจรจาบรรลุข้อตกลงสันติภาพเป็นผลสำเร็จ แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า โอบามายอมรับการบรรลุข้อตกลงในฐานะจุดเชื่อมต่อสำคัญที่จะนำไปสู่กระบวนการในระยะยาวเพื่อสานข้อตกลงสันติภาพได้อย่างยั่งยืนอันจะนำไปสู่ความมั่นคงและความรุ่งเรืองของประชาชนชาวโคลอมเบีย
รัฐบาลโคลอมเบียและ FARC ร่วมกันลงนามข้อตกลงหยุดยิงทั้งสองฝ่ายตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาเพื่อเปิดทางสู่การทำข้อตกลงขั้นตอนสุดท้าย ตามข้อตกลงแล้ว FARC จะล้มเลิกการต่อสู้ด้วยอาวุธและหันมาร่วมกระบวนการทางการเมืองที่เป็นไปตามกฎหมาย รอดริโก แกรนดา หนึ่งในผู้เจรจาฝ่าย FARC ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า การเจรจาบรรลุข้อตกลงสันติภาพนั้นไม่มีผู้ใดเป็นผู้แพ้และเป็นผู้ชนะ มีแต่ประเทศชาติที่ชนะและความตายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโคลอมเบียกล่าวว่า ข้อตกลงสันติภาพในครั้งนี้ต้องได้รับการลงคะแนนเสียงจากประชาชนในวันที่ 2 ต.ค. ที่จะถึงนี้ด้วย
เรียบเรียงจาก
Colombians celebrate as peace deal is reached with Farc rebels, BBC, 25-08-2016