Skip to main content
sharethis
กทม. ลุยรื้อย้ายชุมชนป้อมมหากาฬต่อวันที่ 2 ละเมิดข้อตกลง-เกินเป้าเดิม ลั่นทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย 
 
 
4 ก.ย.2559 ผู้สื่อข่าวประชาไทรายงานว่าเวลาประมาณ 10.00 น. กรุงเทพมหานครเข้าทำการรื้อถอนบ้านเรือนในชุมชนป้อมมหากาฬต่อเป็นวันที่ 2 โดยละเมิดข้อตกลงวานนี้ จากที่ กทม.จะรื้อเพียง 13 หลังที่เจ้าของยินยอม กลายเป็นรื้อ 15 หลัง ในเช้าวันนี้
 
รวมสองวันรื้อถอนเคลื่อนย้ายออกไป 16 หลัง
 
เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานเมื่อเวลาประมาณ 14.20 น. ว่าพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมนายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจติดตามการรื้อย้ายบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ เฉพาะบ้านหลังที่เจ้าของยินยอมและขอให้ กทม.ช่วยรื้อย้าย ซึ่งเป็นไปตามแผนต่อจากเมื่อวานนี้ (3 ก.ย. 2559)
 
โดยในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่เข้าเก็บขนขยะและเศษวัสดุจากการรื้อย้ายเมื่อวานนี้ และในช่วงบ่ายจะดำเนินการรื้อบ้านที่เหลืออีก 4 หลัง ตามแผนเดิมที่มีอยู่จำนวน 13 หลัง รวมถึงจะรื้อย้ายบ้านร้างอีก 3 หลัง ที่ชาวชุมชนมาขอให้ กทม.ช่วยรื้อย้ายเพิ่มเติม รวมเป็น 16 หลัง แต่หนึ่งในจำนวนนี้มีบ้านไม้สักทองที่จะอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ โดยเจ้าของบ้านจะขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านหลังดังกล่าวเองก่อนวันที่ 10 ก.ย.นี้
 
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครดำเนินการรื้อบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ ตามที่ชาวชุมชนยินยอมและขอให้ กทม.ช่วยรื้อย้าย ซึ่งตามแผนมี จำนวน 13 หลัง ภายหลังมีชาวชุมชนฯ มาขอให้กทม.รื้อย้ายบ้านซึ่งเป็นบ้านร้างอีก จำนวน 3 หลัง รวมเป็น 16 หลัง โดยเมื่อวานนี้ได้ดำเนินการรื้อออกไปแล้ว จำนวน 9 หลัง แต่บางหลังยังขนของออกไปไม่หมด และวันนี้กทม.จะดำเนินการรื้อบ้านตามแผนเดิมต่ออีก จำนวน 4 หลัง รวมถึงรื้อบ้านร้างเพิ่มเติมอีก 3 หลัง และจะขนของรวมถึงเศษวัสดุที่เหลือออกทั้งหมดภายในวันนี้ ในส่วนของตึกธัญยประกาศ ที่ตั้งอยู่ในป้อมมหากาฬ ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีผู้เข้ามาอยู่อาศัย โดยเบื้องต้นได้ประสานให้ประธานชุมชนฯ แจ้งผู้เข้ามาอาศัยในอาคารดังกล่าวดำเนินการขนของออกภายในบ่ายของวันนี้ จากนั้นจะให้สำนักผังเมืองเข้ามาปรับปรุงให้สวยงาม ควรแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป
 
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า สำหรับวัสดุจากการรื้อย้าย กทม.จะนำไปเก็บไว้ที่ศูนย์ก่อสร้างและบูรณะ 6 (รัชโยธิน) ส่วนขยะจะนำไปทิ้งทำลายอย่างถูกวิธี และกทม.ได้อำนวยความสะดวกนำส่งสิ่งของให้กับเจ้าของบ้านที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ โดยได้นำส่งไปยัง จ.นครราชสีมา 1 ราย จ.สระบุรี 1 ราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 1 ราย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 1 ราย และนำส่งที่หมู่บ้านเสนาวิลล่า รามอินทรา 109 กรุงเทพฯ 1 ราย แต่ปัญหาใหญ่ของการรื้อย้ายคือช่องทางการขนย้าย เนื่องจากมีเส้นทางเล็ก ใช้ได้เพียงกำลังคนเข้าไปขนออกมา เบื้องต้นได้สั่งการให้ฝ่ายรักษาฯ ฝ่ายเทศกิจ ฝ่ายโยธา ของเขตพระนคร และเจ้าหน้าที่จากสำนักโยธา กทม.ช่วยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้
 
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ยืนยันจะดำเนินการรื้อย้ายตามแผน อย่างเป็นขั้นเป็นตอน หลังจากนี้ส่วนที่เหลือหากมีผู้ยินยอมให้รื้อ กทม.จึงจะเข้ารื้อ แต่หากไม่ยินยอมจะไม่มีการเข้ารื้อเด็ดขาด โดยสิ่งคณะกรรมการสิทธิเสนอให้มีการหารือแนวทางร่วมกันโดยตั้งเป็นคณะกรรมการร่วม ซึ่งจะประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า แต่ทางกทม.ไม่สามารถทำสัญญาต่างๆ กับทางชุมชนฯ ได้ เนื่องจากการกระทำของชุมชนฯ เป็นการละเมิดคำสั่งของศาล ละเมิดคำสั่งของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งถ้าชุมชนฯ จะไปร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายให้เป็นไปตามที่ชุมชนฯ ต้องการ ทางกทม.ก็น้อมรับและปฏิบัติตาม แต่อยากให้ประชาชนทุกคนเข้าใจว่า กทม.เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายก็ต้องทำตามกฎหมาย ถ้ากทม.ไม่ปฏิบัติตามก็จะเป็นการขัดต่อมติของ ป.ป.ช. อีกด้วย
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net