เตรียมเสนอให้ 'บ.ประกัน' บริหารจัดการค่ารักษาพยาบาล 'ข้าราชการ' 6 หมื่นล้านบาท

อธิบดีกรมบัญชีกลางระบุภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการศึกษาแนวทางที่ให้บริษัทประกันเข้ามาบริหารจัดการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการวงเงิน 60,000 ล้านบาท หารือร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยแล้ว เบื้องต้นรูปแบบการให้สิทธิ์ยังยึดภายใต้สิทธิ์การรักษาแบบเดิม คาดว่าหากได้ข้อสรุปตามกำหนดและตกลงไว้จะสามารถเริ่มมีผลใช้ในปี 2560
 
 
 
25 ก.ย. 2559 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการศึกษาแนวทางที่ให้บริษัทประกันเข้ามาบริหารจัดการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ วงเงิน 60,000 ล้านบาท โดยกรมบัญชีกลางได้หารือร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยแล้ว เบื้องต้นรูปแบบการให้สิทธิ์รักษาพยาบาลของข้าราชการยังยึดภายใต้สิทธิ์การรักษาแบบเดิม ซึ่งคาดว่าหากได้ข้อสรุปตามกำหนดและตกลงไว้ จะสามารถเริ่มมีผลใช้ในปี 2560
 
ทั้งนี้ การให้บริษัทประกันเข้ามาบริหารค่ารักษาพยาบาลข้าราชการแทนกรมบัญชีกลาง เพื่อให้การใช้งบประมาณในส่วนนี้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพราะบริษัทประกันสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลได้จริง โดยยืนยันว่า ผู้มีสิทธิ์ทั้งข้าราชการและบุคคลในครอบครัวกว่า 6 ล้านราย จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากยังได้สิทธิ์ตามเดิม เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นเพียงให้บริษัทประกันเป็นผู้บริหารจัดการวงเงินต่อปีที่ 60,000 ล้านบาทเท่านั้น
 
ในช่วงปีงบประมาณ 2556-2559 ค่ารักษาพยาบาลข้าราชการและบุคคลในครอบครัวมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น และการเข้าสู่สังคมสูงอายุเพิ่มขึ้น รวมถึงที่ผ่านมากรมบัญชีกลางได้ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์แต่ละรายการให้สอดคล้องกับปัจจุบันมากขึ้น โดยผลการเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนถึงเดือนสิงหาคม 2559 เบิกจ่ายเงินแล้ว จำนวน 64,665 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีจะเบิกจ่ายประมาณ 68,000 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 59 กรมบัญชีกลางได้ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การเบิกค่ายากลับบ้านนอกเหนือจากระบบกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม หรือ DRGs (Diagnosis Related Groups) การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาคอวัยวะที่เสียชีวิต การเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีแพทย์แผนไทย การเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาคอวัยวะที่เสียชีวิต และการเบิกค่ารักษาทันตกรรม รวมถึงกรมบัญชีกลางยังได้ตรวจสอบการเบิกค่ารักษาพยาบาล โดยพบการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลทุจริตยา จำนวน 11 ราย ขณะนี้ดำเนินคดีไปแล้ว 2 ราย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน 9 ราย
 
นายมนัส ยังกล่าวถึงผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี 2559 (1 ต.ค. 2558 – 16 ก.ย. 2559 ) ว่า การเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมวงเงิน 2.72 ล้านล้านบาท สามารถเบิกจ่ายไปแล้ว 2.45 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 90.16 โดยแบ่งเป็น รายจ่ายประจำ เบิกจ่ายแล้ว 2.11 ล้านล้านบาท จากวงเงินงบประมาณ 2.175 ล้านล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 97.38 ขณะที่รายจ่ายลงทุน ซึ่งไม่รวมงบกลาง เบิกจ่ายไปแล้ว 3.29 แสนล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 4.57 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 72.15
 
ขณะที่ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพิ่มเติม ตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 จนถึงวันที่ 16 ก.ย.2559 ภาพรวมเบิกจ่ายแล้ว 12,537 ล้านบาท ของวงเงินประมาณ 56,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 22.39 แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ เบิกจ่ายแล้ว 12,205 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29.77 และรายจ่ายลงทุน เบิกจ่ายแล้ว 332 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.21 ส่วนผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี ของปีงบประมาณ 2549-2558 เบิกจ่ายได้แล้ว 221,657 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 308,205 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 71.92
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท