ประยุทธ์ปัดตอบปมกักตัว 'โจชัว หว่อง' นักเคลื่อนไหวประท้วงกงสุลไทยที่ฮ่องกง

5 ต.ค. 2559 จากกรณี โจชัว หว่อง แกนนำนักเรียนนักศึกษาฮ่องกงถูกกักตัวห้ามเข้าประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่กลางดึกคืนที่ผ่านมานั้น โดยเขามีกำหนดร่วมพูดในงานรำลึก "40 ปี 6 ตุลา 19" ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวกรณีโจชัว หว่อง โดยกล่าวสั้นๆ ว่า “ให้ไปถามโฆษกฯ”

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า รัฐบาลไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตัว โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและเลขาธิการพรรคเดโมซิสโตของฮ่องกง ที่ได้รับเชิญมาร่วมปาฐกถาในงานรำลึกเหตุการณ์เมื่อ 6 ตุลาคม 2519 ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หว่องถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไม่ให้เข้าประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเช้าตรู่วันนี

ด้าน พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุกับบีบีซีว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นคำสั่งจาก คสช. แต่เป็นการตัดสินใจของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของสนามบิน

ขณะที่ ล่าสุดที่กงสุลไทยที่ฮ่องกง นาธาน หลอ สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง จากพรรคเดโมซิสโต เดินขบวนถามหาศักดิ์ศรีรัฐบาลไทย ประณามประจบจีนแผ่นดินใหญ่ ละเมิดสิทธิมนุษยชน หลังกักตัว โจชัว หว่อง ไม่ยอมให้เข้าประเทศไทยไปร่วมงานรำลึก 40 ปี 6 ตุลา ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จากเฟซบุ๊ก นาธาน หลอ 羅冠聰 Nathan Law 

เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล หนึ่งในผู้จัดงานรำลึก 6 ตุลาฯ ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นผู้ไปรอรับนายหว่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เผยกับบีบีซีไทยว่าขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อหว่องได้ แต่ถ้ามีการส่งตัวเขากลับฮ่องกงจริง ทางคณะผู้จัดงานก็จะจัดให้นายหว่องกล่าวปาฐกถาผ่านทางสไกป์แทน

เนติวิทย์ เผยกับบีบีซีไทยว่า การกักกันตัวหว่องทำให้เขารู้สึกเศร้าใจกับประเทศไทยที่ไม่เปิดรับฟังความคิดเห็น โดยเฉพาะของคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตของประเทศชาติ เหตุผลที่เลือกหว่องมาพูดในงานรำลึกเหตุการณ์ “6 ตุลา” ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะประเด็นหลักของงานในปีนี้คือเรื่องของ “คนรุ่นใหม่มองอนาคต” ที่เป็นการแสวงหาความหวังให้กับสังคม โดย “โจชัว หว่อง” ได้ปฏิบัติตัวให้เป็นที่ประจักษ์จากการที่เขาตั้งพรรคการเมืองเพื่อต่อสู้ทางการเมืองและได้รับชัยชนะ

“สังคมต้องหาคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองอนาคตเพื่อเป็นความหวังของสังคม แต่เรากลับไม่ฟังหรือไม่มีพื้นที่ให้เขาพูดเรื่องประชาธิปไตย ในขณะที่โจชัว หว่อง สามารถไปพูดที่ไทเปของใต้หวันซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งกับจีนได้ แต่กลับมาพูดที่เมืองไทยไม่ได้” เนติวิทย์ กล่าว

ด้าน สุณัย ผาสุข ที่ปรึกษากลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์เรียกร้องรัฐบาลไทยให้ปล่อยตัว “โจชัว หว่อง” โดยทันที และไม่ควรขัดขวางการร่วมอภิปรายในงานรำลึกเหตุการณ์ “6 ตุลา” ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมกับเตือนว่าไทย “อย่าทำตัวเป็นลูกน้องจีนร่วมมือกันละเมิดสิทธิ”

เผยได้กลับฮ่องกง 15.45 น. 

ล่าสุดเมื่อเวลา ในเวลา 14.00 น. ตามเวลาฮ่องกง พรรคเดโมซิสโต ได้ออกแถลงการณ์กรณีโจชัว หว่อง ถูกกักในประเทศไทย ระบุว่า ทางพรรคได้รับแจ้งจากเลขาธิการแผนกคนเข้าเมืองฮ่องกงว่า โจชัว หว่อง จะได้กลับฮ่องกงด้วยเที่ยวบิน HX772 สายการบินฮ่องกง แอร์ไลน์ โดยจะมาถึงในเวลา 15.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น และ นาธาน ลอว์ สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง และประธานพรรคเดโมซิสโต จะแถลงสั้นๆ ต่อสื่อมวลชนที่สนามบิน หลังจากนั้นจะแถลงข่าวใหญ่ที่อาคารของสภานิติบัญญัติฮ่องกงในเวลา 20.00 น. คืนนี้

เพนกวิน ประณามไทยยอมเป็นเมืองขึ้นจีน 

พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนไทยที่เคยร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับ โจชัว หว่อง ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณีนี้ด้วยว่า เป็นการเอาใจจีนที่ละเมิดสิทธิการแสดงความคิดเห็นและการรับรู้ของประชาชนคนไทย ทำเช่นนี้เท่ากับไทยยอมเป็นอาณานิคมของจีน เสียอธิปไตยให้กับจีน ไทยไม่ใช่จีน เมืองหลวงของไทยคือ กรุงเทพ ไม่ใช่กรุงปักกิ่ง ดังนั้นขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวนายโจชัว หว่อง สามารถมาบรรยายที่จุฬาฯ ได้ตามวันเวลาที่กำหนด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการสร้างความเสียหายกับรัฐบาลทหารไทยอีกครั้งในสายตาของนานาชาติ

ประชาธิปไตยใหม่ร้องปล่อยตัว

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ปล่อยตัวหว่องภายในประเทศไทยในทันทีโดยปราศจากเงื่อนไข เนื่องจากไม่มีการยืนยันเป็นที่แน่ชัดว่านายหว่องจะถูกส่งตัวกลับไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกงหรือไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ และจะถูกดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือไม่ การเนรเทศนายหว่องออกจากประเทศไทยจึงอาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของหว่องได้
 
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และประชาชน รวมตัวหน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อทวงถามความเป็นธรรมจากกรณีการกักตัว โจชัว หว่อง และผลักดันออกนอกประเทศ
 
(ที่มาภาพ เพจ Banrasdr Photo )
 

ถึงฮ่องกงแล้ว พร้อมโพสต์เล่าเหตุการณ์

เมื่อเวลา 14.49 น. ที่ผ่านมา เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล หนึ่งในผู้จัดงานรำลึก 6 ตุลาฯ ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นผู้ไปรอรับ โจชัว หว่อง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "Joshua ถึงฮ่องกงโดยสวัสดิภาพแล้ว"
 
โดยสงวน คุ้มรุ่งโรจน์ ได้แปลสเตตัสของ โจชัว หว่อง ที่โพสต์เฟซบุ๊กหลังกลับถึงฮ่องกงว่า "เที่ยงคืนที่ผ่านมาถึงกรุงเทพ ถูกตำรวจศุลกากร ไทยกักขังแบบผิดกฎหมาย ตัดขาดการติดต่อต่อกับโลกภายนอกของผม หลังจากยึดหนังสือเดินทางแล้ว ก็รีบกักขังผมอย่างโดดเดี่ยวภายในที่คุมขังสนามบิน ถึงตอนนี้โชคดีได้กลับถึงฮ่องกง สิบกว่าชั่วโมงนี้ น่ากลัวเหลือเกิน ต้องขอโทษทุกคนที่เป็นห่วงเป็นใย"

แอมเนสตี้ระบุกรณี 'โจชัว หว่อง' เป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก

สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร แถลงกรณีนักกิจกรรมจากฮ่องกง “โจชัว หว่อง” ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศไทย โดยระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอกย้ำว่าทางการไทยเต็มใจที่จะปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก ตลอดจนสะท้อนให้เห็นว่าทางการจีนใช้อิทธิพลกับไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
 
“การกักตัวและส่งกลับโจชัว หว่อง เป็นเครื่องสะท้อนอีกครั้งหนึ่งว่ารัฐบาลทหารของไทยจะทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งการพูดคุยเกี่ยวกับการเมืองในประเทศ” แชมพา พาเทล ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายวิจัยประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว
 
โจชัว หว่อง เป็นนักศึกษาและนักกิจกรรมในฮ่องกง เขาตกเป็นที่สนใจไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2557 ในฐานะหนึ่งในผู้นำการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงที่เรียกกันว่า “การปฏิวัติร่ม” ทั้งนี้ เขาเดินทางมาประเทศไทยเนื่องจากถูกเชิญให้ร่วมพูดในงานที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 6 ตุลาคม 2558 ซึ่งเป็นงานรำลึก 40 ปีเหตุการณ์การที่ตำรวจ ทหาร และกองกำลังกึ่งทหารใช้ความรุนแรงปราบปรามนักศึกษาไทยเมื่อปี 2519
 
“รัฐบาลไทยไม่ควรปล่อยให้ปัจจัยทางภูมิศาสตร์และการเมืองอยู่เหนือพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน และเส้นเขตแดนของประเทศไทยไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการปิดกั้นการพูดคุยเกี่ยวกับประชาธิปไตย ตลอดนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อกังวลทั้งในและต่างประเทศ” แชมพา พาเทล กล่าว

สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์-สภานิสิต จุฬาฯ ออกแถลงการณ์

 
 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท