ประยุทธ์เยี่ยมน้ำท่วมเสนา แนะทุกคนปรับพฤติกรรม รับมือโลกเปลี่ยนแปลง

ประยุทธ์เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ชี้ปัจจุบันโลกมีความเปลี่ยนแปลง ทั้งภัยธรรมชาติ และภัยพิบัติ แนะทุกคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เปิดใจให้กว้างเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่ายึดติด ติดกับดักกับสิ่งเดิม ๆ เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศ 

ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล

5 ต.ค. 2559 เมื่อเวลา 13.00 น. ณ บริเวณวัดโบสถ์ล่าง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมพบปะและมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เสนา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จาก สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และประชาชนคอยให้การต้อนรับ

สุจินต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาว่า ตามที่กรมชลประทานได้ระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาสูงสุด ในอัตรา 1,998 ลบ.ม./วินาที เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2559 และเขื่อนพระรามหกได้ระบายน้ำในอัตรา 491.12 ลบ.ม./วินาที ทำให้มีบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมแม่น้ำน้อย คลองบางหลวง คลองบางบาล และแม่น้ำเจ้าพระยา นอกเขตคันกั้นน้ำ ในพื้นที่อำเภอเสนา บางบาล ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา บางไทร บางปะอิน และริมคลองบางพระครู ในพื้นที่อำเภอบางปะหัน ได้รับผลกระทบ ดังนี้ บ้านเรือนได้รับผลกระทบ รวม 7 อำเภอ 81 ตำบล 461 หมู่บ้าน 22,075 ครัวเรือน ศาสนสถาน โรงเรียนและสถานที่ราชการได้รับผลกระทบ รวม วัด 24 วัด มัสยิด 3 แห่ง โรงเรียน 15 แห่ง สถานีอนามัย 4 แห่ง

สำหรับข้อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในระยะยาวของ จ.พระนครศรีอยุธยา มีดังนี้ ใน 6 อำเภอ ฝั่งตะวันตกแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางซ้าย อ.บางไทร อ.ลาดบัวหลวง ให้ทำนาได้ 2 ครั้ง ดังนี้ รอบที่ 1 ดำเนินการทำนาตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. – 15 ม.ค. หลังจากน้ำลดให้ทำนาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ม.ค. ของทุกปี โดยใช้ข้าวอายุ 120 วัน เช่น ข้าวหอมปทุม ข้าวหอมสุพรรณ ข้าวพิษณุโลก เป็นต้น และเก็บเกี่ยวข้าวตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. – 15 เม.ย. รอบที่ 2 ดำเนินการทำนาตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. – 15 พ.ค. โดยใช้ข้าวอายุ 120 วัน เช่น ข้าวหอมปทุม ข้าวหอมสุพรรณ ข้าวพิษณุโลก เป็นต้น และเก็บเกี่ยวข้าวตั้งแต่ 15 ส.ค. – 15 ก.ย.

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 16 ก.ย. ทางชลประทานสามารถปล่อยน้ำเข้าไปในทุ่งทั้งหมด ได้แก่ ทุ่งป่าโมก ปริมาณน้ำที่เก็บได้ 75 ล้าน ลบ.ม. ทุ่งผักไห่ ปริมาณน้ำที่เก็บได้ 300 ล้าน ลบ.ม. ทุ่งบางบาล ปริมาณน้ำที่เก็บได้ 130 ล้าน ลบ.ม. ทุ่งเจ้าเจ็ด ปริมาณน้ำที่เก็บได้ 640 ล้าน ลบ.ม. โดยปล่อยเข้าไประดับ 1.50 เมตร แล้วทำการปล่อยปลาเข้าไปในทุ่งเป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นช่วงเดือนธันวาคมจะเริ่มทำนาในระยะที่ 1 รวมปริมาณน้ำที่สามารถกักเก็บได้ปริมาณ 1,150 ล้าน ลบ.ม. เป็นพื้นที่การเกษตรรวมทั้งสิ้น 627,450 ไร่ โดยจะต้องให้เกษตรกร ชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร และอำเภอจัดทำบันทึกข้อตกลง และจะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่ประกาศการบริหารจัดการน้ำที่จะเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ยั่งยืน

ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เสนา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีความเปลี่ยนแปลงทำให้ทุกคนได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ และภัยพิบัติต่าง ๆ จึงขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมปรับสภาพให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เปิดใจให้กว้างเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่ายึดติด ติดกับดักกับสิ่งเดิม ๆ เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศ ทุกคนต้องช่วยกันขับเคลื่อนไปสู่การเจริญเติบโต ให้เกิดการยอมรับของประเทศต่าง ๆ อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยการสร้างห่วงโซ่ขึ้นมาใหม่ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูก นำนวัตกรรมมาช่วยในการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าการเกษตร ซึ่งภาครัฐและประชาชนต้องร่วมมือกันในรูปแบบของประชารัฐ

ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะต้องมีการบริหารจัดการทั้งระบบเพื่อแก้ไขปัญหา โดยจะต้องดูปริมาณน้ำที่ไหลมาจากภาคเหนือ รวมถึงปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาด้วย และเพื่อให้ประเทศเกิดความเสียหายน้อยที่สุดจากปัญหาอุทกภัย จึงขอให้ชาวอยุธยาอดทน และ ร่วมมือกับรัฐปฏิบัติตามแผนการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะการรับน้ำเข้าพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลทราบดีถึงความกังวลใจ และความเดือดร้อนของประชาชนจากน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกที่กำลังจะเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งรัฐบาลจะได้พิจารณาหามาตรการเยียวยาช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการระบายน้ำรัฐบาลจะช่วยเหลือตามมาตรการเยียวยาตามปกติต่อไป ขณะที่ในส่วนของปัญหาหนี้สินจากการเกษตร รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และจะดูแลอย่างดีที่สุด พร้อมทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยทั้งประเทศ เพียงแต่ต้องใช้เวลา โดยในอนาคตต้องการให้ทุกคนหลุดพ้นจากวังวนเดิม จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลช่วยกันปฏิรูปประเทศให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นต่อไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะลงเรือ ณ ท่าเรือวัดโบสถ์ล่าง เพื่อพบปะเยี่ยมเยียน สอบถามความเป็นอยู่และให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ก่อนจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดชัยนาท เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่อไป

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท