ประวิตร แจงนำตัวคนหมิ่นฯ กลับไทยเป็นไปได้ยาก เหตุหลายประเทศไม่มีกฎหมายลักษณะนี้

ไพบูลย์ ย้ำรัฐบาลไม่ได้ละเลย ชี้โอกาสที่จะได้ตัวผู้ที่กระทำผิด ม.112 ในต่างประเทศกลับมาดำเนินคดีเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งต้องเคารพอธิปไตยของประเทศนั้นๆ แนะสื่อและสังคมไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเหล่านี้ก็จะหายไปจากโลกโซเชียลมีเดีย

แฟ้มภาพ เว็บไซต์ทำเนียบฯ

27 ต.ค. 2559 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจและทหารได้ดำเนินการดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำผิดมาตรา 112 อย่างเต็มที่ แต่ยอมรับการประสานกับต่างประเทศเรื่องการนำตัวผู้กระทำผิดกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยเป็นไปได้ยาก เนื่องจากในหลายประเทศไม่มีกฎหมายลักษณะเดียวกัน จึงทำให้ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา

ขณะที่วานนี้ (26 ต.ค. 59) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 112 กล่าวถึงการติดตามตัวผู้กระทำผิดตามมาตรา 112 ว่า ตอนนี้ได้รับความร่วมมือจากประเทศที่กระทรวงยุติธรรมได้ประสานไปแล้ว โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายประเทศเริ่มมีการเคลื่อนไหว และแต่ละประเทศได้โทรศัพท์มาหาตน มีการตื่นตัวและให้ความร่วมมือมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ทั้งนี้ตนได้รับการติดต่อจากเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ทั้ง 7 ประเทศ ต้องขอบคุณที่โทรมาสอบถามข้อมูล และเข้าใจสถานการณ์ รากเหง้า เข้าใจปัญหา และสิ่งที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของบ้านเมืองเราเป็นอย่างมาก และให้ความร่วมมือกับเรามากขึ้น

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความร่วมมือและความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ติดปัญหาเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศนั้นๆ ตนเชื่อว่าหากได้ความร่วมมืออย่างแท้จริงเชื่อว่าปัญหานี้น่าจะเบาบางลงได้ หรือ ระงับยับยั้งไม่ให้ทำได้ แต่หากไปปรับทัศนคติของส่วนบุคคลไม่ได้แต่ ก็ไม่ควรจะให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ใช้โลกออนไลน์มาเผยแพร่อย่างไม่ถูกต้อง ตนเชื่อว่าประเทศต่างๆ ทำได้ โดยการใช้กฎหมายและวิธีการต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศนั้นๆ ควบคุม สามารถช่วยเราได้ต้องขอความร่วมมือ ซึ่งเขาก็ตอบรับมาดีกว่าเดิม
 
ต่อกรณีคำถามถึงความร่วมมือที่ได้รับคือลักษณะใดนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ประเทศนั้นๆ เพราะตนดูจากสัญญาณที่เขาติดต่อเรามาและมีการขอข้อมูล ความถี่มันกระตือรือร้นมากกว่าเดิม โอกาสที่จะได้ตัวผู้ที่กระทำผิดมาตรา 112 ในต่างประเทศกลับมาดำเนินคดีเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ใช่ไม่หวังหรอกแต่เราก็ต้องหาทางและวิธีการ เราต้องดูความเข้มข้นทางโน้นว่าเขาจะใช้ระบบไหน เราก็อยากจะได้ตัวผู้ที่กระทำผิด มาตรา 112 กลับมา แต่นายกฯ ก็บอกแล้วว่าอย่าพยายามทำในสถานการณ์แบบนี้ ไม่อยากให้มันทะเลาะกัน ตนบอกแล้วว่าหากสื่อและสังคมไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มบุคคล 7-10 คน เหล่านี้ถ้าหายไปจากโลกโซเชียลมีเดีย มันก็ไม่มีอะไร ถ้าเราเอาเขียนเป็นเรื่องมันก็เหมือนกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งนี้มีในข้อจำกัดเรืองกฎหมาย ดังนั้นประเทศจึงต้องเน้นเรื่องการทำความเข้าใจและใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยแต่ละประเทศก็มีอธิปไตย ซึ่งต้องเคารพอธิปไตยของประเทศนั้นๆ
 
"ผมอยากเรียนพี่น้องประชาชนว่า ให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลย ในการดำเนินการดังกล่าว ใช้ช่องทางความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่ได้เน้นเรื่องต่อบุคคล ต้องพยายามให้ประเทศที่กลุ่มดังกล่าวเคลื่อนไหวอยู่ เข้าใจถึงความรู้สึกรากเหง้าของวัฒนธรรมไทย กับความรู้สึกถึงการกระทำดังกล่าว ผมว่าครั้งนี้ได้ร่วมมือจากสถานทูต เพื่อขอข้อมูลเพื่อแจ้งกลับไปยังรัฐบาลประเทศของตนเอง ซึ่งผมต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
 

ที่มา ไทยพีบีเอส และไทยรัฐออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท