Skip to main content
sharethis

มีชัย ระบุการเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นกลางปี 2560 เร็วกว่าโรดแมปเดิม เผยกำหนดโทษ “ประหารชีวิตทางการเมือง” หากพบการซื้อ-ขาย เก้าอี้รัฐมนตรี ย้ำไม่ได้ออกกฎหมายเพื่อเล่นงานพรรคเพื่อไทย

1 พ.ย. 2559 มติชนออนไลน์ และโพสต์ทูเดย์ รายงานตรงกันว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงขั้นตอนการแก้ไขคำปรารถร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อส่งให้นายกฯนำขึ้นทูลเกล้าฯ ว่า จะแก้ไขคำปรารภร่างรัฐธรรมนูญ ส่งกลับคืนไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เย็นนี้ กำหนดเวลานายกฯนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 30 วัน จะครบวันที่ 10 พ.ย. ยังมีเวลา ส่วนที่พรรคการเมืองประเมินว่า การเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นกลางปี 2560 เร็วกว่าโรดแมปเดิมที่วางไว้ ก็ต้องไปถามพรรคการเมืองเอง ปฏิทินทุกอย่างยังเป็นตามกรอบเวลาเดิมที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ส่วนการลงพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อรับฟังความเห็นประกอบการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ จะเสร็จกลางเดือนพฤศจิกายน โดยรูปแบบจะเหมือนตอนชี้แจงเนื้อหาก่อนทำประชามติ สำหรับตอนนี้ กรธ. อยู่ระหว่างการพิจารณา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยจะทำให้เสร็จร่างแรกสัปดาห์นี้ แล้วสัปดาห์หน้าจะพิจารณา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. จากนั้นก็จะนำความเห็นจากที่รับฟังพรรคการเมืองและประชาชนมาพิจารณาประกอบอีกครั้ง

เมื่อถามถึงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสมาชิกและคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีชัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังพูดถึงเนื้อหากฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้มาก ข้อกำหนดดังกล่าง เรื่องระยะเวลาการหาสมาชิก คุณสมบัติกรรมการบริหารพรรค ต้องกำหนดในบทเฉพาะกาล ที่จะเขียนได้ต่อเมื่อเนื้อหาช่วงแรกเสร็จ หลักการทำกฎหมายพรรคการเมืองของ กรธ. คือ ทำให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองต้องตรงไปตรงมา เป็นที่พึ่งของประชาชน และให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทำให้คนทุจริตการเลือกตั้งไม่มามีส่วนกับพรรค โดยอาศัยจากประสบการณ์ที่ผ่านมาบางเรื่อง อย่างการจ่ายเงินให้หัวหน้าพรรคแลกตำแหน่งรัฐมนตรี ก็จะกำหนดโทษให้แรงถึงประหารชีวิตทางการเมือง ถือเป็นการซื้อขายตำแหน่ง จะวางโทษประหารสำหรับคนเรียกเงิน ส่วนคนจ่ายให้มีโทษแรง โดยมอบให้ กกต. มีหน้าที่ตรวจสอบ ประชาชนสามารถฟ้องกกต.ได้ นอกจากนี้จะเขียนไว้ในกฎหมาย ป.ป.ช. ด้วย ถ้าปิดกันได้ก็ปิดไป แต่อย่าให้หลุดออกมา

เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่า กฎหมายพรรคการเมืองของ กรธ. จ้องลดทอนกำลังพรรคเพื่อไทย มีชัย กล่าวว่า เราไม่ได้เขียนเจาะจงใคร เราเห็นว่า ถ้าใครทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ ถ้าไม่ผิดก็ไม่โดน คงต้องถามตัวเองกันว่ามีพฤติกรรมแบบนี้หรือไม่ กรธ.แค่ว่า พฤติกรรมเหล่านี้ดีหรือไม่ ถ้าอันไหนไม่ดีก็ห้าม

“ผมเชื่อว่าจะมีการตรวจสอบกันจนได้ คล้ายกับการก่ออาชญากรรม ที่ต้องมีการทิ้งร่องรอยไว้ และกรณีที่จะเกิดขึ้นเชื่อว่า ประชาชนได้ปรับบทบาทของตนเองในการช่วยตรวจสอบ ขณะที่ภาครัฐและสื่อมวลชนไม่กล้าทำ ส่วนที่มองว่า เรื่องนี้ทำยาก ผมมองว่าหากเรื่องนี้ใครจะปิดก็ปิดไป แต่เมื่อมีคนเสียผลประโยชน์มันจะเปิดเผยออกมา”มีชัย กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net