Skip to main content
sharethis

11 พ.ย. 2559 ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตนเองเห็นด้วยกับการสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึง บริการทีวีดิจิตอล ผ่านการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล โดยล่าสุดการประชุม กสท. มีมติให้การสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ด้วยการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการทำตามประกาศ Must Carry ที่บังคับให้ผู้ประกอบการช่องต้องออกค่าใช้จ่ายในการยิงสัญญาณโทรทัศน์ขึ้นไปบนดาวเทียม ในเบื้องต้นอาจตั้งเป้าสนับสนุนเป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2560-2561 ซึ่งเป็นช่วงเวลาการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบแอนะล็อก (Switch Off)

อย่างไรก็ดี ธวัชชัยเห็นว่า ควรให้การช่วยเหลือมากกว่าค่าใช้จ่ายเรื่อง Must Carry โดยสนับสนุน ประสานงานกับทางภาครัฐให้มีการขยายระยะเวลาชำระเงินค่าประมูลให้ยาวออกไป ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการประสบปัญหาทางธุรกิจ แต่ยังให้ความร่วมมือกับนโยบายการสื่อสารกับประชาชนของภาครัฐเป็นอย่างดี  โดยนำเสนอมาตรการนี้ต่อหน่วยงานต่างๆเพื่อพิจารณา เช่น กระทรวงการคลัง สำนักอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ธวัชชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ควรมีการทำประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนในเรื่องทีวีดิจิตอลให้มากกว่านี้ หากพิจารณาจากมูลค่าโครงการที่สูงถึง 50,862 ล้านบาทการทำประชาสัมพันธ์เพียง 50 กว่าล้านบาทถือว่าน้อยมาก ดังนั้นต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมมากว่าเดิม รวมทั้งการแจกคูปองเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนครัวเรือน จากครั้งแรกแจกคูปองแลกกล่องดิจิตอลทีวี จำนวน 13.6 ล้านครัวเรือน และมีการอนุมัติแจกคูปองเพิ่มอีก 10.5 ล้านครัวเรือน

อีกจุดหนึ่งที่ช่วยเหลือได้ คือค่าโครงข่ายทีวีดิจิตอลในช่วงเวลาที่ช่องรายการต้องถ่ายทอดพระราชพิธีต่างๆ เนื่องจากช่องรายการได้ให้ความร่วมกับ กสทช. เป็นอย่างดีในการปฏิบัติตามกฎ กติกา โดยอาจใช้เงินส่วนเกินของ กสทช. ที่มีรายรับเหนือรายจ่ายซึ่งน่าจะครอบคลุมได้ แต่ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการก่อน

อนึ่ง ก่อนหน้านี้มีการขอกันวงเงินจำนวน  15,000 ล้านบาทจากค่าประมูล 50,000 กว่าล้านบาท เพื่อแจกคูปองทีวีดิจิตอลให้กับประชาชนทั้งประเทศ  แต่การแจกคูปองครั้งแรก ใช้เม็ดเงินไปเพียง 5,934 ล้านบาท ยังมีเงินเหลือเพื่อดำเนินการสนับสนุนด้านอื่น นอกเหนือจากการแจกคูปอง 

“ที่ผ่านมาผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาก ในนโยบายของรัฐทุกเรื่อง แม้ว่าบางเรื่องอาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ดังนั้น กสทช. ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในขณะเดียวกันก็มองถึงประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดกับประชาชนในการเข้าถึงระบบทีวีดิจิตอลด้วย หากผู้ประกอบการทยอยยกเลิกกิจการอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน ที่จะไม่สามารถรับชมโทรทัศน์ได้ ความจริงโครงการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอล เป็นโครงการใหญ่ มีเงินที่ได้จากการประมูลทีวีดิจิตอลถึง 50,862 ล้านบาท หากใช้เงินภายในวงเงินที่ขอไว้ก็จะไม่ส่งผลต่อเงินที่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน” ธวัชชัย กล่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net