Skip to main content
sharethis
เนื่องในวันเด็กสากลในวันนี้ (20 พ.ย.) ยูนิเซฟระบุการละเมิดสิทธิเด็กยังคงเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก แม้ว่าความเป็นอยู่ของเด็กในหลายด้านจะมีการพัฒนาไปอย่างมากนับตั้งแต่มีการรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ก็ตาม
 
 
 
ที่มาภาพ: prd.go.th
 
กรุงเทพฯ 20 พฤศจิกายน 2559 – เนื่องในวันเด็กสากลในวันนี้ องค์การยูนิเซฟออกมาระบุว่า การละเมิดสิทธิเด็กยังคงเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก แม้ว่าความเป็นอยู่ของเด็กในหลายด้านจะมีการพัฒนาไปอย่างมากนับตั้งแต่มีการรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ก็ตาม
 
นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “การปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้ เพราะชีวิตของเด็กหลายล้านคนทั่วโลกกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเนื่องจากสงคราม ความขัดแย้ง ความยากจน และเราต้องเร่งทำงานเพื่อเข้าถึงเด็กที่ขาดโอกาสมากที่สุด มิฉะนั้น เราจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่แย่ลงในด้านความตกต่ำ ความไม่เท่าเทียม และความไม่มั่นคง”
 
ประเทศไทยให้สัตยาบันในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กในปี พ.ศ. 2535 อนุสัญญาฯ นี้เป็นสนธิสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ซึ่งได้ระบุสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กทุกคนทั่วโลกในด้านต่างๆ เช่น สุขภาพอนามัย การพัฒนา การคุ้มครอง และการมีส่วนร่วม
 
นับตั้งแต่ได้ให้สัตยาบันในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ประเทศไทยได้มีการพัฒนาระบบบริการทางสังคมขั้นพื้นฐานไปอย่างมาก ส่งผลให้อัตราการตายของทารกลดลงจนเหลือเท่าๆ กับในประเทศพัฒนาแล้ว ในขณะเดียวกัน ประชากรทั้งในเมืองและชนบทกว่าร้อยละ 97 สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัย
 
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความก้าวหน้าไปอย่างมาก แต่เด็กหลายกลุ่มซึ่งรวมถึงเด็กยากจน เด็กกลุ่มชาติพันธุ์ เด็กอพยพ และเด็กพิการยังคงถูกทิ้งอยู่ข้างหลัง และยังคงเข้าไม่ถึงการศึกษาที่มีคุณภาพหรือบริการทางสุขภาพและการคุ้มครอง ในปี 2557 ประเทศไทยมีเด็กกว่า 2 ล้านคนที่มีชีวิตอยู่กับความยากจน ยิ่งไปกว่านั้น เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบประมาณ 1 ใน 6 คนยังคงไม่ได้รับโภชนาการที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาสมองและพัฒนาการโดยรวม
 
สำหรับทั่วโลก ในแต่ละปียังคงมีเด็กเกือบ 6 ล้านคนที่เสียชีวิตจากสาเหตุที่ป้องกันได้ โดยเด็กในครอบครัวยากจนมีโอกาสเสียชีวิตก่อนอายุครบ 5 ขวบมากกว่าเด็กที่มาจากครอบครัวร่ำรวยถึงสองเท่า นอกจากนี้ เด็กเกือบ 50 ล้านคนต้องย้ายถิ่นฐานจากบ้านเกิด ในจำนวนนี้มีเด็ก 28 ล้านคนต้องอพยพหนีภัยจากสงครามและความขัดแย้ง และอีกจำนวนมากติดอยู่ในพื้นที่ที่มีการสู้รบ เช่น ซีเรีย อิรักและไนจีเรียตอนเหนือ โดยต้องเสี่ยงชีวิต ขาดเรียนและเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาลเนื่องจากโรงเรียน โรงพยาบาล และบ้านเรือนถูกโจมตีเสียหาย ทั่วทั้งโลกมีเด็กราว 250 ล้านคนอาศัยอยู่ในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
 
นอกจากนี้ ยังคงมีเด็กเกือบ 385 ล้านคนทั่วโลกที่มีชีวิตอย่างยากจนข้นแค้น มีเด็กวัยเรียนกว่า 250 ล้านคนที่ไม่ได้ไปโรงเรียน และมีเด็กเกือบ 300 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่มีมลภาวะอากาศเป็นพิษสูงที่สุดซึ่งสูงกว่ามาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ถึงหกเท่า
 
ในเดือนหน้าองค์การยูนิเซฟจะมีอายุครบ 70 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยูนิเซฟได้ทำงานเพื่อช่วยชีวิตเด็ก ตลอดจนพัฒนาความเป็นอยู่ในระยะยาว และนำความหวังไปสู่อนาคตของเด็กๆ ที่ต้องเผชิญกับวิกฤต การต่อสู้ ความยากจน ความไม่เท่าเทียม และการเลือกปฏิบัติ
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net