Skip to main content
sharethis
สมัชชาคนจนแถลงการณ์กรณี 7 นักวิชาการในคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ตัดสินใจลาออกจากการเป็นกรรมการฯ ระบุเพราะไม่สามารถทนกับการไม่จริงใจของรัฐบาลที่ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลอย่างจริงจัง
 
27 พ.ย. 2559 สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูลออกแถลงการณ์ "2 ปีเศษ รัฐบาล คสช. หมดปัญญาแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล" โดยมีรายละเอียดว่าจากกรณี 7 นักวิชาการในคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ตัดสินใจลาออกจากการเป็นกรรมการ ฯ ด้วยสาเหตุที่ไม่สามารถทนรับกับสภาพการไม่จริงใจของรัฐบาลที่ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการตัดสินใจของอนุกรรมการ ฯ ที่มีมติให้ปิดเขื่อนปากมูลเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา อันเป็นมติที่ขัดแย้งกับหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการอำนวยการฯ กำหนดไว้ ในขณะที่นักวิชาการที่เป็นกรรมการได้เรียกร้องให้มีการเรียกประชุมเพื่อยับยั้งมติอนุกรรมการ ฯ ดังกล่าว แต่รัฐบาลก็ไม่ฟังเสียงทัดทานแต่อย่างใด จนนำไปสู่ “ฟางเส้นสุดท้าย” คือการตัดสินใจลาออก
 
สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล ขอน้อมรับต่อการตัดสินใจของนักวิชาการทั้ง 7 ท่าน และขอขอบพระคุณนักวิชาการทุกท่าน ที่ได้ใช้ความรู้ ความสามารถในการแสวงหาทางออกต่อการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล อย่างจริงจังด้วยความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด และแม้ว่าในหลายครั้งความรู้ทางวิชาการจะถูกท้าทายด้วยความไม่จริงใจของราชการและรัฐบาลก็ตาม ดังนั้นตลอดช่วงระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า รัฐบาลไร้สมรรถภาพ ขาดสิติปัญญา ที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดจากการสร้างเขื่อนปากมูล หากแต่ แหกตา ปาหี่ สังคมไปวัน ๆ เท่านั้น
 
การลาออกของนักวิชาการในครั้งนี้ ถือว่าคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ได้สิ้นสุดความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ลงแล้ว สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล ขอแสดงจุดยืน ดังนี้ 1.) ขอประนามรัฐบาล ในความไม่จริงใจ ที่จะใช้ความรู้ที่มีค่า มาแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล 2.) การดำเนินการใด ใด ของ คสช. ของรัฐบาล และของคณะกรรมการอำนวยการ ฯ ที่จะมีขื้นนับจากนี้เป็นต้น สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล จะไม่ขอยอมรับ จนกว่าจะมีการกำหนดกรอบการทำงานร่วมกับพวกเรา 3.) ในระหว่างที่ยังไม่มีกรอบการทำงานที่ชัดเจน คสช. รัฐบาล และการไฟฟ้า ฯ ต้องไม่ดำเนินการใด ใด ที่จะนำไปสู่การเผชิญหน้า ความขัดแย้ง รวมทั้งจะต้องไม่มีการปิดประตูเขื่อนปากมูลอย่างเด็ดขาด และ 4.) จะต้องมีการเจรจา อย่างเสมอหน้า เพื่อกำหนดกรอบการทำงานแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลภายใน 30 วัน
 
ในแถลงการณ์ยังระบุว่าในช่วง 2 ปีเศษที่ผ่านมา สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล มีความหวังว่าคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ชุดดังกล่าว มีองค์ประกอบที่ดีที่สุดเท่าทีเคยมีมา เป็นความหวังของพวกเราว่า ปัญหาความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนปากมูลที่หมักหมมมากว่า 26 ปี จะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เป็นรูปธรรม แต่ความหวังครั้งนี้ก็พังลงเพราะความไม่จริงใจของ คสช.และรัฐบาล  อย่างไรก็ตาม พวกเราจะไม่ยอมนิ่งเฉย หรือยอมจำนนต่อความไม่จริงใจของ คสช.และรัฐบาล พวกเราจำเป็นต้องเดินหน้า ผลักดันให้ปัญหาที่เกิดจากเขื่อนปากมูลได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net