ลูกชาย ผบ.มทบ.38 ถูกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส โพสต์ของคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ฝัน อยากให้สังคมเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ ทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่ากัน เลือกตั้งก็ได้ 1 คะแนนเท่ากัน ตร.สภ.ช้างเผือกยืนยันไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และถอดกล้องวงจรปิดมาลิน สกาย
29 พ.ย.2559 จากกรณี อิศราชนุวัฒภ์ หรือเจมส์ วรรคาวิสันต์ ลูกชาย พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 จังหวัดน่าน (ผบ.มทบ.38) ถูกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. 59 ที่ผ่านมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งดั้งจมูกหัก, เยื่อหูฉีก, ฟันแตก 2 ซี่, กรามร้าว, สมองกระทบกระเทือน และตาซ้ายมีปัญหามองไม่เห็นต้องรอผลการตรวจให้แน่ชัด โดยกรณีดังกล่าวมีการพาดพิงไปถึงกลุ่มดารานักแสดง และไฮโซที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
วันนี้ (29 พ.ย.59) อิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในลักษณะสาธารณะ ว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ทั้งพี่ๆ นักข่าวที่มาทำข่าว ครอบครัวที่อยู่ข้างๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่เป็นห่วงที่เดินทางมาจากหลายๆ ที่ ขอโทษกับหลายๆ ข้อความที่ไม่ได้ตอบกลับ จะพยายามตอบกลับให้ครบถ้าหายแล้ว สำหรับการรับเพื่อนขออภัยจริงๆ ครับมีคนแอดมาหลายคนมากแต่เนื่องจากเหตุผลของความส่วนตัวจึงขอสงวนไว้
"สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และขอเรียกร้องให้ทุกท่านได้ให้ความสนใจในสิทธิของตนเอง ไม่มองข้ามเรื่องเล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่ครับ ผมอยากเห็นสังคมที่เรากลับมามองกันที่คุณค่าของความเป็น "มนุษย์"มากกว่า"วัตถุนิยม" ที่โดนระบบนายทุนเข้ามาทำให้สังคมไทยเปลี่ยนไป ไม่อยากให้มองว่าคนรวยทำอะไรก็ได้ ทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่ากัน เลือกตั้งก็ได้ 1 คะแนนเท่ากัน เราต้องกลับมาตระหนักถึงผลกระทบถ้าหากวันใดวันหนึ่งเรามีลูกหลาน เราอยากให้ลูกหลานของเราอยู่ในสังคมแบบใด สังคมที่มีแต่ความช่วยเหลือกันหรือสังคมที่อยู่แบบตัวใครตัวมัน" อิศราชนุวัฒภ์ โพสต์
"หนึ่งคนไม่สามารถเปลี่ยนสังคมได้หรอกครับทุกคนเป็นคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม แค่เราเปลี่ยนมุมมองสังคมรอบตัวเราก็จะเปลี่ยนครับ ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นได้ครับ" อิศราชนุวัฒภ์ โพสต์ พร้อมระบุด้วยว่า ไม่ได้คิดว่าตัวเองดัง เพราะไม่อยากให้ดังเพราะเรื่องนี้ แต่ไหนๆ ก็ได้รับความสนใจ ต่อไปถ้ามีกิจกรรมดีๆ ที่ส่งเสริมสังคมจะนำมาแบ่งปันกัน ถือว่าเป็นอีกช่องทางที่จะทำเพื่อสังคม เพื่อลูกหลานเราในอนาคต
ตร.สภ.ช้างเผือกยืนยันไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และถอดกล้องวงจรปิดมาลิน สกาย
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานด้วยว่า เพจเฟซบุ๊ก “ปฏิรูปตำรวจ” และสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่และแชร์ภาพของนายตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ระบุว่าเป็นหุ้นส่วนของร้านมาลิน สกาย และเป็นผู้ที่ทำการถอดกล้องวงจรปิดออกไปจากทางร้านนั้น
พ.ต.ต.สถิตชัย นิตยวัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ซึ่งเป็นนายตำรวจที่พาดพิง ชี้แจงว่า ภาพที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้นเป็นภาพเก่าตั้งแต่ปี 2558 ที่ทำคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และไม่รู้ว่าผู้ใดที่เป็นคนถ่ายภาพไว้ กระทั่งมีการนำมาเผยแพร่ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าผู้ที่นำภาพไปเผยแพร่เป็นคนที่เคยถูกตัวเองจับกุมคดีหมิ่นประมาทเมื่อหลายปีที่แล้ว เชื่อว่าน่าจะมีความแค้นส่วนตัว ทั้งนี้ไม่ขอแก้ตัว และจะดำเนินการตามกฎหมายฐานทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียง
นอกจากนี้ พ.ต.ต.สถิตชัยยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับ กฤษณะ อมิตรสูญ หรือบอล และ ธนิน เลิศอำรุงกุล อายุ 33 ปี เจ้าของร้านมาลิน สกาย เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด แต่เคยจับกุมนายธนินในข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ชั้นล่างของร้านมาลิน สกาย โดยยึดกล้องวงจรปิดของร้านส่งดำเนินคดีและมีความเห็นส่งฟ้อง โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนกล้องวงจรปิดของร้านมาลิน สกาย ที่หายไปหลังเกิดเหตุนั้นยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนนำออกไป และไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น
'บอล-กฤษณะ' ชวดประกันตัว ยื่นในชั้นศาลแทนต่อ
ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า หลังจากที่พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทำร้ายผู้เสียหายรวม 4 คน 1 ในจำนวนนั้น คือ กฤษณะ หรือบอล แฟนหนุ่มอุ้ม ลักขณา เนื่องจากผู้เสียหายให้การพาดพิง และชี้ตัวในรูปภาพว่าเป็นผู้สั่งการ
ต่อมาเวลา 21.15 น. มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า ศาลได้อนุมัติหมายจับ กฤษณะ หรือบอล และพนักงานร้านมาลินอีก 3 รายแล้ว โดยทนายของกฤษณะได้เตรียมหลักทรัพย์ขอยื่นประกันตัว แต่พนักงานสอบสวนไม่ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ให้ทนายไปยื่นในชั้นศาลแทน
