ทุกคนบริสุทธิ์จนกว่าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด 'โฆษกศาล' แจงเหตุให้ประกัน 'หมอนิ่ม'

โฆษกศาลยุติธรรม อธิบายข้อกฎหมายการปล่อยชั่วคราว 'หมอนิ่ม-ทนายอี๊ด'  ฐานจ้างวานฆ่า 'เอ็กซ์ จักรกฤษณ์' ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีที่อยู่-ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งแน่นอน จึงไม่สงสัยว่าจะหลบหนี และต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิด

23 ธ.ค. 2559 จากกรณีศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาประหารชีวิต พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ฐานจ้างวานฆ่า จักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม สามีและอดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เหตุเกิดเมื่อปี 2556 รวมทั้งสั่งประหาร สันติ ทองเสม หรือทนายอี๊ด ทำหน้าที่จัดหาทีมฆ่าเช่นกัน ขณะที่มือปืนและคนขี่รถจักรยานยนต์ให้จำคุกตลอดชีวิต พร้อมให้ชดใช้เงิน 2.5 ล้านบาท ส่วนแม่ของหมอนิ่มให้ยกฟ้อง เนื่องจากพยานเบิกความขัดแย้งกันและเชื่อว่ารับผิดแทนลูก โดยศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลเห็นว่าจำเลยมีหน้าที่การงานและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อีกทั้งไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนีในชั้นพิจารณาคดี ในชั้นนี้จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขจำเลยห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล 

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.59 ข่าวสดออนไลน์ สืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม อธิบายข้อกฎหมายการปล่อยชั่วคราว จากกรณีที่ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว พญ.นิธิวดี และสันติ  จำเลยที่ 3-4 คดีจ้างวานฆ่าจักรกฤษณ์ ว่าการที่ศาลจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จะต้องปรากฏเหตุอันควรเชื่อเหตุใดเหตุหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1 กล่าวคือ 1.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี 2.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน 3.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น 4. ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันไม่น่าเชื่อถือ 5.การปล่อยชั่วคราวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนเจ้าพนักงานหรือการดำเนินคดีในศาล

สืบพงษ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว จึงไม่มีกรณีที่จำเลยที่ 3 และที่ 4 จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น หรือเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงานหรือการดำเนินคดีในศาลตาม (2) (3) และ (5) คงมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาเพียงว่าจำเลยจะหลบหนีหรือไม่ โดยศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 มีภูมิลำเนาที่อยู่และประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งแน่นอน จึงไม่มีพฤติการณ์ที่สงสัยว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 น่าจะหลบหนี ซึ่งเป็นการใช้ดุลพินิจพิจารณาจากข้อเท็จจริงต่างๆ ในสำนวนคดีเป็นเรื่องๆ ไป เพราะข้อเท็จจริงในแต่ละสำนวนไม่เหมือนกัน

เมื่อหลักประกันที่ผู้ร้องขอประกันน่าเชื่อถือ ศาลอุทธรณ์จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 3 และที่ 4 อันเป็นการพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยกำหนดมาตรการป้องกันการหลบหนีด้วยการห้ามจำเลยที่ 3 และที่ 4 เดินทางออกนอกราชอาณาจักรสอดคล้องกับหลักการอันเป็นสากลว่า ในคดีอาญาต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิด

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท